ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ร่วงดิ่งลงในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ดัชนีหุ้นทั้งในเอเชียและยุโรปร่วงลงไปแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนที่ไม่แน่ใจต่ออนาคตของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน สองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ตลาดหุ้นนครนิวยอร์กร่วงลงไปกว่า 1.5% เมื่อเปิดตลาด ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาก่อนปิดตลาดในวันพฤหัสบดี หลังจากปิดการซื้อขายไปหนึ่งวันเมื่อวานนี้เนื่องในวันไว้อาลัยต่ออดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างมาก คือข่าวการจับกุม เมิ่ง หวางโจว (Meng Wangzhou) ซีเอฟโอของ Huawei สืบเนื่องจากข้อกล่าวหาการละเมิดมาตรการลงโทษต่ออิหร่าน
เธอถูกจับกุมที่เมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทางแคนาดาเพิ่งเปิดเผยการจับกุมในวันพุธ และคาดว่าเธอจะถูกส่งตัวมาดำเนินคดีในสหรัฐฯ
SEE ALSO: ซีเอฟโอหัวเหว่ยถูกจับในแคนาดาข้อกล่าวหาละเมิดมาตรการลงโทษต่ออิหร่าน
การจับกุมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีนครั้งนี้ อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าและการทำข้อตกลงระหว่างสองประเทศ
โดยทางการจีนขอให้สหรัฐฯ และแคนาดา ออกมาอธิบายอย่างชัดเจนถึงเหตุผลในการจับกุม เมิ่ง หวางโจว พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอในทันที
และเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ระดมทวีตข้อความว่า จีนพร้อมที่จะเจรจาข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับสหรัฐฯ
โดยก่อนหน้านี้หนึ่งวัน เกิดเหตุการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน เมื่อ ปธน.ทรัมป์ บอกว่าตนคือ "a Tariff Man" ซึ่งหมายถึงการที่ผู้นำสหรัฐฯ สนับสนุนนโยบายตั้งกำแพงภาษีสำหรับสินค้าที่จะนำเข้ามายังสหรัฐฯ รวมถึงสินค้านำเข้าจากจีนด้วย