ผู้นำโลกเร่งสร้างความเชื่อมั่นในการจัดการโคโรนาไวรัสในประเทศ

ผู้นำโลกเร่งสร้างความเชื่อมั่นในการจัดการวิกฤตโคโรนาไวรัสในประเทศ ระหว่างที่ตัวเลขผ้ติดเชื้อและเสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วโลก

เริ่มกันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวที่อาคารรัฐสภาในวันอังคารถามคำถาม โดยรักษาระยะห่างประมาณ 2-3 เมตรจากกลุ่มสื่อมวลชนในกรุงวอชิงตัน ตามรายงานของ Associated Press โดยบอกว่าคณะทำงานของตนรับมือกับสถานการณ์โคโรนาไวรัสได้ดี

และเมื่อถูกถามว่าจะเข้ารับการตรวจหาเชื้อโคโรนาไวรัสหรือไม่ ผู้นำสหรัฐฯ มองว่าไม่มีความจำเป็นและไม่มีเหตุผลที่ตนจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัส และว่าทางแพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจแต่อย่างใด แม้ว่าจะมีรายงานข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า สมาชิกสภาคองเกรส 4 ราย ต้องกักตัวเพื่อเฝ้าระวังโควิด-19 หลังเข้าร่วมกิจกรรมการประชุมใหญ่งานหนึ่งที่มีการพบผู้ติดเชื้อที่นั่น และมีรายงานด้วยว่าผู้นำสหรัฐฯ เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่เฝ้าระวังติดเชื้อด้วย

ต่อกันที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางไปเยือนเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของโคโรนาไวรัสเมื่อปลายปีที่แล้วด้วยตนเองเป็นครั้งแรกหลังจากทางการเมืองอู่ฮั่นสั่งปิดโรงพยาบาลชั่วคราว 14 แห่งที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ตามรายงานของรอยเตอร์ส ผู้นำจีนได้กล่าวชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและทุกฝ่ายในการรับมือกับโคโรนาไวรัส ขณะที่หลายพื้นที่ในมณฑลหูเป่ย เริ่มผ่อนคลายมาตรการให้ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อต่ำสามารถเดินทางได้ และมีระบบขนส่งภายในพื้นที่รองรับมากขึ้นกว่าช่วงหลายเดือนก่อน

ไปที่ฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาคร็อง ได้ออกแถลงข่าวด้วยตนเอง กรณีที่รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม แฟรงค์ รีสเตอร์ ติดเชื้อโคโรนาไวรัส รวมทั้งรายงานที่ว่าหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำงานของนายมาคร็องถูกกักตัวเพื่อสังเกตอาการ หลังจากเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยบอกว่า ฝรั่งเศสยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นกลัว และงดการกักตุนสิ่งของโดยไม่จำเป็น

มาตรการที่รัฐบาลฝรั่งเศสหยิบยกมาใช้ในเบื้องต้น คือ งดการจับมือทักทายและการสัมผัสใกล้ชิดตามธรรมเนียมปฏิบัติลง สั่งทำความสะอาดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และแนะให้เจ้าหน้าที่ที่รู้สึกไม่สบายสามารถทำงานที่บ้านได้ หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนสภาฝรั่งเศสเกิดความวุ่นวาย เพราะมีรายงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างน้อย 5 คนมีเชื้อโคโรนาไวรัส และตอนนี้ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อเกือบ 1,800 คน และเสียชีวิตกว่า 30 คนแล้ว

ส่วนที่อิตาลี 24 ชั่วโมงแรกที่ทางการสั่งล็อคดาวน์ทั่วประเทศ ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังพุ่งสูงถึงกว่า 124 รายภายใน 24 ชั่วโมงที่ปิดเมือง และติดเชื้อกว่า 10,000 รายทั่วประเทศแล้ว มีรายงานบนสื่อสังคมออนไลน์ถึงสถานการณ์วุ่นวายเมื่อประชาชนพยายามกักตุนสินค้า มีตำรวจและทหารจำนวนมากคอยรักษาความสงบเรียบร้อยและสั่งยุติการชุมนุมต่างๆทั่วประเทศ โดยทางการอิตาลีระบุว่าจะสั่งปิดเมืองต่อเนื่องไปจนถึง 3 เมษายนนี้

ข้ามไปที่อังกฤษ มีรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข นาดีน ดอรีส์ ตรวจพบว่าติดเชื้อโคโรนาไวรัส และเพิ่งเข้าพบนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ รวมทั้งเข้าร่วมประชุมสภา ก่อนล้มป่วยเมื่อวันศุกร์ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการกักตัวและรักษาตัวแล้ว

สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลก ทะลุ 4,200 ราย และติดเชื้อเกือบ 120,000 คนแล้ว