โครงการอาหารโลก (World Food Program - WFP) กำลังเร่งส่งความช่วยเหลือด่วนไปยังประชาชนจำนวนกว่า 51,000 คนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของกาซา ขณะที่ความรุนแรงจากการปะทะกันระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสที่อยู่ในปาเลสไตน์ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง
WFP เปิดเผยในวันจันทร์ว่า การจะนำส่งความช่วยเหลือต่างๆ ไปให้กับผู้รับกลุ่มดังกล่าว ให้อยู่ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือนนั้น ทางโครงการต้องระดมเงินสนับสนุนจำนวน 14 ล้านดอลลาร์ ขณะที่มีการประเมินว่าจะต้องใช้เงินอีก 31.8 ล้านดอลลาร์ “เพื่อเดินหน้าส่งความช่วยเหลือด้านอาหารภายใต้แผนงานที่ดำเนินอยู่ให้กับผู้คนกว่า 435,000 คนในเขตกาซาและเขตเวสต์แบงก์ ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนจากนี้ด้วย”
รายงานข่าวระบุว่า โครงการอาหารโลกจะจัดส่งเงินสดให้กับผู้เดือดร้อนที่ร้องขอความช่วยเหลือมาเป็นครั้งแรก รวมทั้งสำหรับผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจากทาง WFP อยู่แล้ว ซึ่งเป็นชาวกาซาประมาณ 260,000 คน โดยกว่า 2 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้ประสบปัญหา “ความไม่มั่นคงทางอาหาร” ก่อนเหตุความรุนแรงจากการปะทะกันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่เดินหน้าเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 นี้จะเริ่มต้นเสียด้วยซ้ำ
ซาเมอร์ อับเดลจาเบอร์ ผู้แทนโครงการ WFP และผู้อำนวยการโครงการประจำเขตปาเลสไตน์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า “สำหรับผู้คนที่ต้องสูญเสียหรือลี้ภัยออกจากบ้านของตนเองนั้น ความต้องการที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในเวลานี้ก็คือ อาหาร และวิธีที่รวดเร็วที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดในการนำส่งความช่วยเหลือก็คือเงินสด ในรูปแบบบัตรกำนัลดิจิทัล หรือ e-voucher เพราะยังมีอาหารให้หาซื้อได้อยู่ และร้านค้าในพื้นที่หลายแห่งยังเปิดให้บริการอยู่ ซึ่งรวมถึง ร้านที่ทางโครงการได้ทำสัญญาเพื่อรับ e-voucher ของ โครงการอยู่แล้ว”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความรุนแรงที่ดำเนินอยู่นี้ทำให้สถานการณ์ต่างๆ ย่ำแย่ลง และการปิดด่านพรมแดนระหว่างทั้งสองยิ่งผลักดันให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นไปอีกด้วย ขณะที่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 นั้นมีส่วนสำคัญในการทำให้สภาพความเป็นอยู่ของผู้คนเลวร้ายลงไปอีก ตามรายงานของ WFP