หลายประเทศเริ่มผลักดันมาตรการช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบของโควิด-19 เพิ่มเติม ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสพุ่งสูงในหลายประเทศทั่วโลก
เริ่มที่ ออสเตรเลีย นายสก็อต มอร์ริสสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศงบประมาณ 1,400 ล้านดอลลาร์ เพื่อรับมือกับอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่ระดับ 7.4% หรือเกือบ 1 ล้านคน นับเป็นอัตราว่างงานสูงสุดในรอบ 22 ปีของออสเตรเลีย ช่วงการระบาดของโควิด-19
โดยงบ 1 พันล้านดอลลาร์จะเข้ามาช่วยภาคธุรกิจจ่ายค่าแรงครึ่งหนึ่งให้พนักงาน และอีก 400 ล้านดอลลาร์เป็นการช่วยแรงงานเตรียมทักษะที่จำเป็นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโรคระบาด
ขณะที่ตอนนี้ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อ 11,000 คน เสียชีวิต 113 คน ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 317 รายเมื่อวันพฤหัสบดีในวิคตอเรีย ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นสถิติใหม่
ไปที่แคนาดา นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ประกาศงบช่วยเหลือ 19,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือราว 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย ในระยะ 6-8 เดือนข้างหน้า ตั้งแต่การติดตามตรวจสอบการระบาดของเชื้อโควิด-19 จัดหาอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรค เพื่อรองรับการเปิดเศรษฐกิจช่วงโควิด-19 ตามรายงานของรอยเตอร์
ขยับไปที่ญี่ปุ่น ผู้ว่าการกรุงโตเกียวยูริโกะ โคอิเกะ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า โตเกียวมียอดติดเชื้อทำสถิติใหม่ที่ 280 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และตอนนี้กรุงโตเกียวได้เพิ่มการตรวจทำสถิติใหม่เป็น 4,000 คนในวันเดียวด้วยเช่นกัน
ซึ่งการปรับเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจทำให้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ เตรียมพิจารณามาตรการใหม่ในการกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อชดเชยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปช่วงนี้
ส่วนที่อินเดีย มีผู้ติดเชื้อทะยานเฉียด 1 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 2.4 หมื่นคน เมื่อวันพฤหัสบดี พบผู้ติดเชื้อใหม่ 3.3 หมื่นคนภายในวันเดียว
ข้ามไปที่กรีซ สั่งุคุมเข้มพรมแดนเพิ่มเติม โดยจะอนุญาตให้ข้ามพรมแดนได้หากมีรายงานผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศ
ส่วนโรมาเนีย ประกาศขยายมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ออกไปอีก 30 วัน เมื่อวันพฤหัสบดี
อิสราเอล เตือนประชาชนว่าจะกลับมาใช้มาตรการล็อคดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง หากตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ปรับลดลงในช่วง 2-3 วันข้างหน้า
ที่แอฟริกาใต้ กลับมาใช้มาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกครั้ง หลังจากที่โรงพยาบาลและทีมแพทย์ไม่มีสรรพกำลังมากพอในการรับมือกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเมาแล้วขับ ระหว่างที่ประเทศต้องรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ที่ยอดติดเชื้อกว่า 3.1 แสนคน และเสียชีวิตกว่า 4.4 พันคน
ปิดท้ายที่บราซิล ประธานาธิบดีจาอีร์ โบลโซนาโร เปิดเผยผลตรวจโควิด-19 เมื่อวันพุธ ยังเป็นบวกเช่นเดิม และเขายังต้องรับการตรวจต่ออีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่ยอดติดเชื้อทั่วประเทศทะลุ 2 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 7.5 หมื่นคนแล้ว
ข้อมูลจากหน่วยงานสถิติของรัฐบาลบราซิล IBGE ระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจบราซิลให้ปิดตัวชั่วคราวหรือถาวรมากถึง 522,700 แห่ง และส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ที่คิดเป็นสัดส่วน 30% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของบราซิล
ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี ยอดติดเชื้อทั่วโลกอยู่ที่ 13.7 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 5.8 แสนคน ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์