สื่อต่างชาติในจีนกังวลความปลอดภัยจากกระแสชาตินิยมในโอกาส 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีน

Reporters are seen in front of the Beijing 2022 Winter Olympic and Paralympic Games signs during a news conference on the construction progress of the sports event venues, at the headquarters of the Beijing Organising Committee, in Beijing, China July 30…

Your browser doesn’t support HTML5

China Media War

ขณะที่การแข่งกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อนที่กรุงโตเกียวซึ่งถูกเลื่อนมาจากปีที่แล้วจะสิ้นสุดลงในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ในอีกราวหกเดือน คือระหว่างวันที่ 4-20 กุมภาพันธ์ปี 2565 จีนก็จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาว

แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือปลายเดือนกรกฎาคม สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศจีน (FCCC) ได้แสดงความกังวลและเตือนเรื่องความปลอดภัยของผู้สื่อข่าวต่างชาติ ท่ามกลางกระแสชาตินิยมที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งสร้างขึ้นเพื่อตอบโต้การเสนอข่าวเชิงวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อจากประเทศตะวันตกเหล่านี้

เป็นที่คาดกันว่ากีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าจะเป็นกิจกรรมที่ดึงดูดผู้สื่อข่าวต่างชาติหลายร้อยคน

แต่วิลเลียม แกลโล ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานว่ากองทัพผู้สื่อข่าวเหล่านี้อาจต้องพบกับกระแสต่อต้านที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งสร้างขึ้นเพื่อโหมกระตุ้นความไม่พอใจเกี่ยวกับการทำงานของสื่อต่างชาติ โดยเฉพาะในเรื่องราวต่างๆ ที่สร้างภาพลบให้กับจีนและรัฐบาลปักกิ่งอ้างว่าเรื่องเหล่านี้ไม่เป็นความจริง ตัวอย่างเช่น ปักกิ่งได้มุ่งเป้าโจมตีการทำงานของ BBC ที่รายงานเกี่ยวกับค่ายปรับทัศนคติสำหรับชาวมุสลิมอุยกูร์ได้มณฑลซินเจียง เป็นต้น

การรณรงค์ที่มุ่งสร้างความเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้สื่อข่าวต่างชาติทั้งโดยสื่อของทางการจีน จากนักการฑูตจีนในต่างประเทศ และจากหน่วยงานของรัฐในประเทศจีนเองนี้บางครั้งได้ส่งผลคุกคามต่อสวัสดิภาพของผู้สื่อข่าวจากประเทศตะวันตกที่รายงานข่าวเหตุการณ์ซึ่งไม่ใช่การเมืองเช่นกัน

ตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีกลุ่มชาวจีนที่โกรธแค้นเข้าห้อมล้อมและควบคุมตัวผู้สื่อข่าวที่เป็นชาวอเมริกันและชาวเยอรมนีสองคนจากการรายงานเรื่องน้ำท่วมที่จังหวัดเหอนาน โดยชาวเมืองกล่าวหาผู้สื่อข่าวสองคนนี้ว่าเผยแพร่ข่าวลือที่ต่อต้านจีน และหลังจากนั้นก็มีสื่อหลายสำนักรายงานว่าผู้สื่อข่าวของตนได้รับโทรศัพท์คุกคามหรือถูกถูกเอาชีวิตเช่นกัน

การคุกคามและข่มขู่สื่อต่างชาติในประเทศจีนที่ว่านี้มีขึ้นขณะที่กำลังเกิดกระแสชาตินิยมในโอกาสครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเท่าที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้ใช้แนวทางการทูตแบบแข็งกร้าวและประจัญหน้าหรือที่เรียกว่า “wolf warrior” diplomacy ซึ่งอาศัยการตอบโต้ด้วยคำพูดอย่างเผ็ดร้อนและการข่มขู่เพื่อแสดงว่าจีนจะไม่เป็นฝ่ายที่ยอมถูกตำหนิโจมตีแต่เพียงฝ่ายเดียวเช่นกัน

บรรยากาศตึงเครียดที่ว่านี้นอกจากจะมีผลต่อการทำงานของผู้สื่อข่าวต่างชาติในจีนแล้วยังทำให้นักวิชาการและผู้สื่อข่าวที่อยู่ในต่างประเทศบางคนยอมรับว่าตนอาจไม่ต้องการเดินทางกลับเข้าไปในจีนอีกเพราะเกรงว่าอาจจะถูกข่มขู่รังควาน ถูกสะกดรอย หรืออาจถูกคุมขังได้

โดยผลการสำรวจซึ่งแม้อาจไม่ใช่ผลวิจัยอย่างเป็นทางการของ ChinaFile วารสารออนไลน์ของ Asia Society แสดงว่า 40% ของผู้ที่เป็นสมาชิกมีความรู้สึกในลักษณะนี้

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนได้บอกปัดเรื่องดังกล่าวและชี้ว่าเฉพาะผู้ที่ละเมิดกฎข้อบังคับของจีนเท่านั้นที่ควรกังวล และว่าความโกรธแค้นไม่พอใจของประชาชนจีนที่มีต่อการทำงานและการรายงานข่าวของผู้สื่อข่าวต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองและเป็นผลจากการทำงานที่มีอคติและการสร้างข่าวปลอมของสื่อประเทศตะวันตกด้วย

ถึงแม้ผู้สื่อข่าวบางคนจะแย้งว่าสาธารณชนจีนมักถูกปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงเนื้อหาและการรายงานของสื่อชาติตะวันตกอย่างเต็มที่ดังนั้นกระแสต่อต้านที่ว่านี้จึงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ

และถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญบางคนจะเชื่อว่าการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในช่วงต้นปีหน้าอาจทำให้ปักกิ่งพยายามหลีกเลี่ยงการสร้างข่าวในทางลบเรื่องการจัดการหรือการควบคุมการทำงานของสื่อมวลชนต่างชาติและอาจใช้วิธีขับออกจากประเทศแทนที่จะคุมขังหรือกักตัวไว้หากผู้สื่อข่าวเหล่านี้ทำอะไรที่ไม่ถูกใจรัฐบาลก็ตาม

แต่รองศาสตราจารย์ลิม ไท เหวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือที่มหาวิทยาลัย National University ในสิงคโปร์ก็เชื่อว่าในโอกาสครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนปีนี้ ผู้นำของจีนโดยเฉพาะประธานาธิบดีสี จิ้น ผิงมีความจำเป็นด้วยเหตุผลด้านการเมืองในประเทศที่จะไม่อ่อนข้อและคงจะพยามทำตัวให้ดูเข้มแข็งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความมีอธิปไตยของประเทศ และว่าประธานาธิบดีสี จิ้น ผิงนั้นจำเป็นต้องแสดงให้ชาวจีนเห็นว่าตนแข็งแกร่งและสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ทั้งนี้เพื่อช่วยสร้างความชอบธรรมให้ทั้งกับตนเองรวมทั้งสำหรับพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย

ที่มา: VOA