การที่เว็บไซท์ wikileaks นำเอกสารลับทางการทูตของสหรัฐออกเผยแพร่ ก่อให้เกิดการโต้อภิปรายเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องรักษาข้อมูลข่าวสารบางอย่างไว้เป็นความลับ

  • Jennifer Glasse
    ประภัสสร อักขราสา

การที่เว็บไซท์ wikileaks นำเอกสารลับทางการทูตของสหรัฐออกเผยแพร่ ก่อให้เกิดการโต้อภิปรายเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องรักษาข้อมูลข่าวสารบางอย่างไว้เป็นความลับ

การที่เว็บไซท์ wikileaks นำเอกสารการติดต่อทางการทูตที่เป็นความลับของสหรัฐออกเผยแพร่เมื่อเร็วนี้ ทำให้เป็นเรื่องถกเถียงกันขึ้นมา บรรดาผู้สนับสนุนกล่าวว่า การทำเช่นนั้นเป็นผลประโยชน์ของสาธาณะชน ส่วนบรรดาผู้คัดค้านเห็นว่า จะมีผลเสียหายต่อทั้งเสรีภาพแห่งการแสดงความคิดเห็นและต่อการทูตระหว่างประเทศ ตลอดจนความปลอดภัยของคนจำนวนมาก และจะมีการถกอภิปรายกันต่อไปในเรื่องความจำเป็นที่ต้องรักษาข้อมูลข่าวสารบางอย่างไว้เป็นความลับ

เอกสารของทางการสหรัฐที่เว็บไซท์อินเทอร์เน็ท Wikileaks นำออกเผยแพร่ล่าสุด เป็นเคเบิลหรือโทรเลขการติดต่อทางการทูตที่เป็นความลับมากกว่า 250,000 ฉบับจากนักการทูตประจำสถานทูตสหรัฐทั่วโลกถึงทางการที่กรุงวอชิงตัน

สมาชิกรัฐสภาอังกฤษ Malcolm Rifkind ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ กล่าวว่า การนำเอกสารดังกล่าวมาเปิดเผย มีผลกระทบเสียหายต่อการดำเนินงานทางการทูต เขากล่าวว่า บางครั้ง การแก้ปัญหาระหว่างประเทศที่ยากลำบากมากๆ จำเป็นจะต้องมีการติดต่อทางการทูตเป็นการภายในก่อนในชั้นแรก แล้วจึงจะเปิดเผยให้เป็นทราบกันทั่วไปได้

แต่ Jo Glanville บรรณาธิการของ Index on Censorship องค์การเพื่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น คิดว่า การนำเอกสารดังกล่าวออกมาเปิดเผย จะเป็นผลประโยชน์ของประชาชนทั่วไป และกล่าวว่า ข้อมูลเหล่านั้นมีผลกระทบต่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจใดๆ หรือข้อตกลงทั้งหลายที่ประเทศต่างๆ ทำกัน และในเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2544 ที่มีการก่อการร้ายในสหรัฐ โลกมีสถานการณ์ที่เรียกได้ว่า เป็นภาววะสงคราม อย่างในอิรัคและในอาฟกานิสถาน ซึ่งมีความวิตกกันมากขึ้นในเรื่องสิทธิมนุษยชน

Simon Davies ผู้อำนวยการองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน Privacy International กล่าวว่า เราควรต้องทราบวิธีที่โลกทำงาน เขาเห็นว่า การนำเอกสารที่เป็นความลับออกเปิดเผยนั้น เป็นการตรวจสอบความเป็นจริง ที่การรั่วไหลของข้อความที่เป็นความลับเหล่านั้น ทำให้คนทั่วไปได้เห็นภาพภายในของการดำเนินงานต่างๆ ซึ่งจะทำให้สามารถปรับความคาดหวังในฐานะพลเมือง และสามารถกดดันให้รัฐบาลปรับความคาดหวังของรัฐบาลเองด้วย

ส่วนผู้ที่เห็นขัดแย้งกล่าวว่า การนำข้อความที่เป็นความลับของรัฐการออกเผยแพร่เช่นนั้น เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง Scott Gilmore อดีตนักการทูตแคนาดา กล่าวว่า เรื่องนี้จะก่อให้เกิดความยากลำบากมากขึ้น ไม่เฉพาะสำหรับนักการทูตอเมริกันเท่านั้น แต่สำหรับนักการทูตทั่วไป ที่จะพูดจากับผู้ที่อยู่ในท้องที่ เพื่อจะได้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาจากคนท้องถิ่นในเรื่องสิทธิมนุษยชนและการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตลอดจนถึงเรื่องประชาธิปไตย เขาเห็นว่า การเปิดเผยข้อความที่เป็นความลับเช่นนั้น จะทำให้ชีวิตของคนจำนวนมากเสี่ยงต่ออันตราย

อย่างไรก็ตาม Julian Assange ผู้ก่อตั้ง Wikileaks กล่าวว่า เป้าหมายต่อไปของเว็บไซท์นี้ จะเป็นธนาคารใหญ่ธนาคารหนึ่ง

แต่ไม่ว่า Wikileaks จะนำเรื่องอะไรออกมาเปิดเผย ก็คงไม่พ้นที่จะต้องเป็นเรื่องที่เป็นที่เห็นขัดแย้งกันต่อไปว่า อะไรควรเก็บไว้เป็นความลับ และอะไรที่สาธารณะชนควรได้รับรู้