เทย์เลอร์ สวิฟต์ นำพาคอนเสิร์ต Eras Tour ไปถึงยุโรปแล้ว และแฟน ๆ จากประเทศต่าง ๆ ได้จับจองตั๋วจนไม่เหลือสักใบตั้งแต่กรุงดับลิน ไปถึงกรุงเวียนนาและอีกหลายเมือง จนมีผู้วาดฝันว่า เศรษฐกิจของแต่ละแห่งจะคึกคักขึ้นทันตาเห็นเพราะอานิสงส์จากการมาเยือนของศิลปินชื่อดังรายนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ในเวลานี้ หลายฝ่ายตั้งความหวังว่า คอนเสิร์ตของสวิฟต์ ผนวกกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพและการแข่งขันฟุตบอลรายการยูโร 2024 ที่เยอรมนี จะกลายมาเป็นยาวิเศษที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของทวีปยุโรปที่หวิดตกเข้าสู่ภาวะถดถอยตลอด 2 ปีที่ผ่านมาและขยายตัวตามหลังสหรัฐฯ อย่างมากอยู่
แต่สิ่งที่มีผู้หยิบยกขึ้นมาเตือนนักฝันเหล่านี้คือ เศรษฐกิจที่ได้อานิสงส์จากเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Swiftonomics) นั้นไม่มีอยู่จริง
จริงอยู่ที่ สวิฟต์ เป็นศิลปินระดับโลกที่ปฏิวัติวงการเพลงอย่างมาก การจะตัดสินว่า อานิสงส์ต่อภาคเศรษฐกิจจากพลังความเป็นซูเปอร์สตาร์ของนักร้องที่นิตยสารฟอร์บสจัดอันดับให้เข้าสู่ความเป็นมหาเศรษฐีพันล้านรายนี้มีมากเพียงใด ต้องรอจนกว่ากระแสคอนเสิร์ต Eras Tour ซาลงเสียก่อน
รอยเตอร์ยกตัวอย่างกรณีของกรุงสตอกโฮล์มซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการจัดคอนเสิร์ตนี้และมีแฟน ๆ มากถึงเกือบ 180,000 คนแห่กันไปชมการแสดงทั้งหมด 3 รอบในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยราวครึ่งหนึ่งนั้นเป็นแฟน ๆ ที่มาจากนอกสวีเดน ขณะที่ มีการประเมินว่า การจัดคอนเสิร์ตครั้งนั้นสร้างรายได้ให้สตอกโฮล์มได้ถึงราว 850 ล้านโครน (ราว 81 ล้านดอลลาร์)
ตัวเลขนี้อาจฟังดูสูงไม่น้อยสำหรับช่วงเวลา 3 วันของการจัดคอนเสิร์ตในสตอกโฮล์ม แต่ก็เป็นเหมือนน้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรสำหรับเศรษฐกิจของสวีเดนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ในสหภาพยุโรปและมีผลผลิตประจำปีสูงถึง 623,000 ล้านดอลลาร์
คาร์ล เบิร์กวิสต์ หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์ จากหอการค้าสตอกโฮล์ม กล่าวว่า การหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวในช่วงสั้น ๆ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสตอกโฮล์มได้จริง โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว และว่า “แต่มันก็เท่านั้น – แค่ช่วงสุดสัปดาห์ โดยไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญหรือเห็นได้ชัดเจนต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมเลย”
ทั้งนี้ หอการค้าสตอกโฮล์มประเมินว่า โรงแรมและภัตตาคารร้านอาหารในเมืองหลวงของสวีเดนโกยเงินเข้ากระเป๋าได้มหาศาล แม้แต่ธุรกิจค้าปลีกยังขายหมวกคาวบอยเพิ่มขึ้นถึง 155%
ผลกระทบต่อราคาสินค้าในสตอกโฮล์ม เนื่องจากคอนเสิร์ตของสวิฟต์ ก็เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นจริง แต่เป็นระดับที่ต่ำกว่าเมื่อครั้งบียอนเซ่เปิดการแสดงที่เมืองแห่งนี้ในปีก่อนหน้าและทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อพุ่งชั่วคราว ก่อนที่จะตกฮวบจากระดับ 10% มาอยู่ที่กว่า 2% ดังเช่นในปัจจุบัน
คาร์สเตน เบรเซสกี นักเศรษฐศาสตร์จาก ING ให้ทัศนะว่า หากจะมีสิ่งที่เรียกว่า ผลกระทบ ‘เทยเลอร์ สวิฟต์’ จริง ก็เป็นอะไรที่เล็กสุดขีดและอยู่เพียงชั่วครู่เท่านั้น
- ที่มา: รอยเตอร์