ทำไมรถยนต์ถึงอาจเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในวันฮาโลวีน

แฟ้มภาพ: เด็ก ๆ ในชุดแฟนซีออกมาร่วมกิจกรรม Trick or Treat ในเทศกาลวันฮาโลวีน ที่ชานเมืองนิวยอร์ก เมื่อ 31 ต.ค. 2566

แพทย์ในสหรัฐฯ มีความเห็นคล้าย ๆ กันว่า รถยนต์คือ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในวันคืนปล่อยผี เพราะสถิติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า วันฮาโลวีนคือ วันที่มีสถิติการเสียชีวิตของคนเดินถนนมากที่สุดของปี โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ๆ

บริตนีย์ ลอมบาร์ด ผู้จัดการด้านงานป้องกันการบาดเจ็บของโรงพยาบาลเด็กโคโรลาโด บอกกับ เอพี ว่า การที่ผู้ใหญ่มัวแต่ระวังความเสี่ยงจากการทานลูกอม-ของหวานมากไปอย่างมากในเทศกาลนี้เป็นหลักอาจเป็นมองผิดจุดไป ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญมั่นใจว่า ที่ผ่านมา มีการเพิ่มขึ้นของกรณีการเสียชีวิตของคนเดินถนนที่เป็นเด็กในคืนวันฮาโลวีนอย่างชัดเจน และทุกฝ่ายสามารถร่วมกันทำการบรรเทาเหตุเช่นนี้ได้

เอพี รวบรวมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับคำแนะนำในการช่วยให้การฉลองวันอันมีสีสันนี้ปลอดภัยและสนุก โดยไม่ต้องเสี่ยงภัยทั้งหลายนัก

เดินเกาะเป็นกลุ่ม

ลอมบาร์ด แนะว่า วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ๆ ไม่ตกอยู่ในอันตรายที่ป้องกันได้ในระหว่างฉลองเทศกาลฮาโลวีนคือ การระแวดระวังเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรอบตัวเสมอ ซึ่งรวมความถึงทั้งผู้ขับขี่และคนเดินถนนอื่น ๆ ด้วย เพราะมีกรณีของผู้ขับขี่ที่เกิดใจลอยหรือมัวแต่คุยโทรศัพท์ รวมทั้งคนเดินถนนที่มัวแต่ฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์โดยใช้หูฟังอยู่มากมาย

แฟ้มภาพ: เด็ก ๆ ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ออกมาร่วมกิจกรรม Trick or Treat ในเทศกาลฮาโลวีน เมื่อ 31 ต.ค. 2561

ผู้จัดการของโรงพยาบาลเด็กโคโรลาโดกล่าวเสริมว่า เด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีควรมีผู้ใหญ่ประกบไปด้วยเมื่อออกไปร่วมกิจกรรม “trick or treat” ขณะที่เด็กที่โตกว่านั้นที่ออกมากันเองก็ควรตระหนักถึงกฎการใช้ถนนและการเป็นคนเดินถนนที่รับผิดชอบด้วย กล่าวคือ ไม่เดินไป-คุยโทรศัพท์ไป สบตาผู้ใช้รถก่อนจะข้ามถนน และใช้ทางข้ามรวมทั้งทางเดินเท้าเสมอ

ในส่วนของผู้ขับขี่ทั้งหลาย ลอมบาร์ดร้องขอให้ทุกคนอย่าขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด ถ้าดื่มแอลกอฮอล์มาก็ไม่ขับ และใส่ใจสิ่งที่เกิดขึ้นบนถนนตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เพราะ “จะมีเด็กมากมายออกมาร่วมกิจกรรมในช่วงค่ำ ซึ่งเป็นช่วงวิสัยทัศน์จำกัด”

มีคำเตือนด้วยว่า ผู้ที่ถอยรถออกจากหน้าบ้านหรือโรงรถนั้นต้องระวังเป็นพิเศษในวันฮาโลวีน เพราะเด็ก ๆ มักจะวิ่งเข้า-ออกตามบ้านต่าง ๆ อยู่ตลอด โดยผู้ขับขี่ควรเปิดหน้าต่างไว้ จะได้ได้ยินเสียงเด็กที่วิ่งเล่น รวมทั้งคอยส่องกระจกมองข้างและมองหลังเสมอ และค่อย ๆ ถอยรถออกด้วย

เคล็ดลับการเลือกชุดแฟนซี

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ชุดแฟนซีที่นำมาแต่งในวันฮาโลวีนนั้นสร้างสรรค์เพียงใดก็ได้ แต่ควรจะปลอดภัยไว้ก่อน

ตัวอย่างของเด็ก ๆ ในชุดแฟนซีวันฮาโลวีน

นอกจากนั้น ขนาดก็ควรจะพอดีตัวผู้ใส่ และไม่ควรมีส่วนที่ยาวลากพื้นจนอาจทำให้สะดุดได้ เช่น มีผ้าคลุมหลังหรืองานออกแบบ 3 มิติที่ทำให้การนั่งรถดูไม่ปลอดภัยได้

ในส่วนของสีสันก็ควรเลือกกลุ่มที่เป็นสีสว่าง หรือยิ่งถ้าสะท้อนแสงได้ยิงดี หรือไม่ก็ ติดแถบสติกเกอร์เรืองแสงหรือสะท้อนแสงเพิ่มก็ได้

นายแพทย์นิโคลัส อัลกู กุมารแพทย์จากศูนย์แพทย์ Ochsner Health ในรัฐลุยเซียนา กล่าวด้วยว่า สำหรับเสื้อนั้น ควรเลือกชุดที่ไม่ติดไฟง่าย และถ้าเป็นกรณีการตกแต่งนอกบ้าน ก็ให้เลี่ยงพวกสายระโยงระยางและการจุดไฟจริงด้วย เพราะว่า เด็กที่วิ่งเล่นไปทั่ว บวกกับไฟและเทียนของจริง คือโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างง่ายดาย

แกะสลักฟักทองให้ปลอดภัย

ฟักทองแกะสลักเป็นรูปใบหน้าที่รู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า Jack o’ lantern นั้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของฮาโลวีนมานาน แต่การจะแกะสลักผักชนิดนี้ให้ออกมาสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

แฟ้มภาพ: ฟักทองแกะสลัก Jack O' Lantern ที่เรียงรายอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Van Cortlandt Manor House and Museum นครนิวยอร์ก เมื่อตุลาคม 2558

เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น นายแพทย์อัลกูกล่าวว่า ตัวฟักทองนั้นต้องแห้งสนิท และใช้ปากกาเมจิกวาดลายที่ต้องการเจาะและแกะสลักก่อนลงมือจริง โดยให้เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้นเป็นคนใช้มีดลงมือแกะ ส่วนเด็กนั้น ให้ทำหน้าที่ตักเมล็ดฟักทองก็พอจะทำให้สมาชิกตัวน้อยในบ้านปลอดภัย ทั้งยังรู้สึกว่าได้มีส่วนร่วมและสนุกไปกับการฉลองเทศกาลนี้แล้ว

หรือถ้าบ้านไหนจะเว้นไม่ใช้การแกะสลักเลย การนำวัสดุอื่น ๆ มาตกแต่งฟักทองแทนก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจและไม่เหมือนใครด้วย

ระวังทั้งขนมหวานและคนแปลกหน้า

หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องเล่าว่า มีคนวางยาในขนมหวานมาแจกผู้คนในคืนวันฮาโลวีนกันบ้างแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นเพียงสิ่งที่บอกต่อ ๆ กันมาเท่านั้น

แฟ้มภาพ: เด็ก ๆ ในชุดแฟนซีฮาโลวีนมารับขนมในกิจกรรม "Trick or Treat" เมื่อ 31 ต.ค. 2551

นายแพทย์อัลกูกล่าวว่า สิ่งที่มีความสำคัญยิ่งกว่าคือ ผู้ปกครองควรระวังไม่ให้บุตรหลานทานขนมหวานที่ได้มาจนกว่าจะกลับถึงบ้าน เผื่อว่าจะมีกรณีเหตุฉุกเฉินใด ๆ เกิดขึ้น เพราะขนมเหนียว ๆ หรือชิ้นโต ๆ อาจติดคอเด็กเล็กได้

และแม้ว่าเด็ก ๆ จะมีความรู้สึกอยากตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อขอรับขนมหวานแค่ไหน ผู้ใหญ่ควรเตือนว่า วันฮาโลวีนไม่ใช่วันที่ควรจะไปไหนไกล โดยเฉพาะจุดที่ไม่ค่อยได้ไป

นายแพทย์อัลกูแนะด้วยว่า ไม่ควรเข้าไปในบ้านใครเลย และให้แค่ยืนอยู่ตรงหน้าบ้านที่มีไฟส่องสว่าง ในเขตที่คุ้นเคยเท่านั้นก็พอ

ท้ายสุด แม้จะเป็นการร่วมกิจกรรมวันฮาโลวีนใกล้ ๆ บ้าน ก็อาจมีคนแปลกหน้ามาวนเวียนอยู่ได้ ดังนั้น การเกาะกลุ่มกันไว้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

  • ที่มา: เอพี