องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในยุโรปที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอด 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา “ได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว”
นายฮานส์ คลู้ก ผอ.ภาคพื้นยุโรป ขององค์การอนามัยโลก กล่าวในวันพฤหัสบดีระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใน 53 ประเทศของยุโรป เพิ่มขึ้น 10% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
คลู้ก กล่าวว่า การเดินทาง การรวมตัวของคนจำนวนมาก และการผ่อนเพลามาตรการควบคุมทางสังคม คือสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ได้แก่ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ติดต่อง่ายกว่าเดิม ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าลง
ผอ.ภาคพื้นยุโรปของ WHO กล่าวว่า ในขณะที่ประชาชนมากกว่า 60% ยังคงรอฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรก การผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทาง และการปะปนทางสังคม อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้สายพันธุ์เดลตากลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในยุโรปภายในเดือนสิงหาคมนี้ และยิ่งฉีดวัคซีนช้าเท่าไร เชื้อไวรัสก็ยิ่งกลายพันธุ์มากขึ้นเท่านั้น
ตัวเลขผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิต ในรัสเซียและอินโดนีเซียพุ่งสูง
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัสเซียรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นสถิติใหม่ในรอบหนึ่งวันที่ 672 คนในวันพฤหัสบดี ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในรัสเซียเพิ่มเป็น 132,973 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ระดับ 5.4 ล้านคน ตามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์
ส่วนที่อินโดนีเซีย ประธานาธิบดีโจโก วีโดโด ประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดชุดใหม่บนเกาะบาหลีและเกาะชวา มาตรการดังกล่าวรวมถึงการจำกัดการเดินทางทางอากาศ การห้ามรับประทานอาหารภายในร้าน และการปิดสำนักงานและธุรกิจที่ไม่จำเป็นชั่วคราว โดยจะมีผลบังคับใช้วันเสาร์นี้จนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม ซึ่งครอบคลุมถึงช่วงเทศกาลวันหยุดของชาวมุสลิม อีดิลอัฎฮา ด้วย
ยอดผู้ติดเชื้อในอินโดนีเซียพุ่งสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24,836 คนในวันพฤหัสบดี และเสียชีวิตเพิ่มอีก 504 คน ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นสถิติใหม่ จนถึงขณะนี้อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 2.1 ล้านคน และเสียชีวิตรวม 58,491 คน
ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า เวลานี้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 182.2 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 3.9 ล้านคน