สถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในยุโรปยังอยู่ในระดับที่น่ากังวล ด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่พุ่งสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้องค์การอนามัยโลกออกปากขอให้รัฐบาลที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันดำเนินมาตรการเชิงรุกเต็มรูปแบบเพื่อสู้วิกฤตินี้
คริสเตียน ลินด์ไมเยอร์ โฆษกองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เหตุผลที่รายงานตัวเลขโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนี้ อาจเป็นเพราะหลายคนไม่ได้รับการตรวจก่อนหน้านี้ หรือเป็นเพราะกรณีการติดเชื้อในคนกลุ่มใหญ่พร้อมๆ กัน ซึ่งทำให้หลายประเทศมีปัญหาไม่สามารถพร้อมรับมือได้ทัน อย่างเช่นหลายๆ ประเทศในยุโรปที่กำลังลำบากอยู่ในเวลานี้
ลินด์ไมเยอร์ บอกว่า การที่นานาประเทศไม่มีความพร้อมที่จะทำการทดสอบ ทำการรักษาและติดตามผู้ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ การทดสอบ บุคลากร และสิ่งจำเป็นต่างๆ ไม่เพียงพอ ถือเป็นปัญหาระดับโลกแล้ว
ภายใต้ภาวะในปัจจุบัน รัฐบาลหลายๆ ประเทศตัดสินใจดำเนินมาตรการเข้มข้น เช่น การสั่งให้ประชาชนแยกและเก็บตัวอยู่ในที่พัก รวมทั้งรักษาระยะห่างทางสังคม และห้ามเดินทาง ซึ่งลินด์ไมเยอร์ ให้ความเห็นว่า รัฐบาลทั้งหลายมีอำนาจเต็มที่จะทำการตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าควรทำการใดที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ในประเทศตน
ขณะที่ องค์การอนามัยโลกยอมรับว่า มาตรการขั้นเด็ดขาด ทั้งทางการแพทย์ ทางสังคม และทางการเมืองของจีนและสิงคโปร์ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงอย่างมาก ลินด์ไมเยอร์ ระบุว่า ในเวลานี้ ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า มาตรการของอิตาลี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และประเทศอื่นๆ ในยุโรป จะได้ผลมากน้อยเพียงใด พร้อมกล่าวย้ำว่า สถานการณ์การระบาดใหญ่ทั่วโลกในเวลานี้มีแต่จะแย่ต่อไปอีกสักพัก ก่อนที่จะเริ่มดีขึ้น