Your browser doesn’t support HTML5
Wall Street Journal รายงานว่า กลุ่มแฮคเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์เรียกค่าไถ่ "WannaCry" สามารถเรียกเก็บเงินค่าไถ่ปลดล็อคเครื่องคอมพิวเตอร์ไปได้แล้วอย่างน้อย 252 ราย คิดเป็นมูลค่าราว 66,000 ดอลล่าร์
โดยค่าไถ่ดังกล่าวอยู่ในรูปของสกุลเงินดิจิตัล Bitcoin ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายทางอินเทอร์เน็ต
อย่างไรก็ตาม การจะแลก Bitcoin นี้เป็นเงินจริง หรือนำไปใช้ทำธุรกรรมในโลกความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ในหลายประเทศกำลังจับตาดูการใช้ Bitcoin อย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามหาตัวผู้อยู่เบี้องหลังเหตุการณ์ปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่โจมตีคอมพิวเตอร์กว่า 200,000 เครื่องทั่วโลกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ถึงกระนั้น WSJ ชี้ว่า กลุ่มแฮคเกอร์อาจใช้วิธีเปลี่ยน Bitcoin ให้เป็นเงินสกุลดิจิตัลอื่นๆ ที่มีราว 700 สุกลในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ยากต่อการติดตาม
หรืออีกวิธีคือหาใครสักคนที่ยินดีแลกเงินสดกับ Bitcoin ผ่านกระดานข่าวในโลกออนไลน์ ที่มีอยู่มากมายหลายเว็บไซต์ในหลายประเทศ
นักวิเคราะห์เชื่อว่า มัลแวร์ WannaCry ซึ่งได้ทำให้คอมพิวเตอร์ราว 200,000 เครื่องทั่วโลกไม่สามารถใช้งานได้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ใช้ช่องทางการปล่อยไวรัสโดยอาศัยเอกสารของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่รั่วไหลทางออนไลน์
โดยติดต่อผ่านระบบปฏิบัติการ Window รุ่นเก่าของ Microsoft ทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นใช้การไม่ได้ และจะเรียกค่าไถ่ $300 เพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อีกครั้ง
ผู้ปล่อยมัลแวร์ WannaCry ดังกล่าวยังบอกด้วยว่า จำนวนเงินค่าไถ่จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในเวลาสามวันหลังจากถูกไวรัสโจมตี และไวรัสนี้จะเข้าไปทำลายไฟล์ทุกอย่างในคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นหากไม่ได้รับเงินค่าไถ่ภายใน 7 วัน