Your browser doesn’t support HTML5
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ John Kerry กล่าวสุนทรพจน์ที่กินใจ ในงานรำลึกการครบรอบ 50 ปีสงครามเวียดนาม Vietnam War Summit ในนครออสติน รัฐเท็กซัส ในฐานะทหารผ่านศึกในสงครามครั้งนั้น
งานนี้จัดที่ห้องสมุดประธานาธิบดี Lyndon B. Johnson ผู้นำสหรัฐฯ ในยุคนั้น
การปรากฏตัวของรัฐมนตรี Kerry ในครั้งนี้นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และยังเปิดประเด็นที่เคยถูกพูดถึงให้กลับมาเป็นหัวข้อสนทนาอีกครั้งหนึ่ง เพราะแม้ว่า John Kerry จะเคยรบในสงครามเวียดนาม เขากลับมาสหรัฐฯ ก่อนสงครามจบและต่อต้านรัฐบาลที่ส่งทหารโจมตีเวียดนามเช่นเดียวกันกับคนหัวก้าวหน้าในยุคนั้นจำนวนมาก
ประเด็นนี้ทำให้ทหารผ่านศึกหลายคนไม่พอใจที่เห็น John Kerry มางาน Vietnam War Summit ในครั้งนี้
Edward Zielinski คือหนึ่งในนั้น เขารบในเวียดนามช่วงปี ค.ศ. 1969 ถึง 1970 และเห็นว่าการปรากฏตัวของรัฐมนตรี Kerry เป็นการลบหลู่เกียรติ เพราะเขาเชื่อว่าการต่อต้านสงครามของ John Kerry ในยุคนั้นเป็นการทรยศต่อประเทศ
อย่างไรก็ตาม Thomas Goff ทหารผ่านศึกอีกผู้หนึ่งเห็นต่างกัน เขาบอกว่าตนเคารพ John Kerry อย่างมาก และตัวเขาเองก็เปลี่ยนท่าทีมาต่อต้านสงครามเวียดนามเช่นกัน เพราะปฏิบัติการครั้งนั้นสร้างความเสียหายให้กับสหรัฐฯอย่างมาก
ผู้ที่ยอมรับและเคารพประวัติการรับใช้ชาติของรัฐมนตรี Kerry อีกผู้หนึ่งเป็นแขกคนสำคัญของงานนี้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ Henry Kissinger กล่าวว่าตนยังจำได้ว่า ขณะที่เขาทำงานอยู่ที่ทำเนียบขาว ยุคประธานาธิบดี Richard Nixon ซึ่งนาย John Kerry เป็นผู้นำการประท้วงสงครามเวียดนาม
ขณะนี้ทั้ง Kerry และ Kissinger เป็นเพื่อนต่างวัยที่มีการเคารพซึ่งกันและกัน
และที่งานครั้งนี้ อดีตรัฐมนตรี Henry Kissinger ก็เป็นเป้าการประท้วงเช่นกัน เพราะมีหลายคนที่มองว่า Kissinger มีส่วนสนับสนุนในปฏิบัติการของสหรัฐฯในสงครามเวียดนาม
ส่วนผู้ประท้วงคนอื่นๆ ใช้งาน Vietnam War Summit เป็นเวทีวิจารณ์รัฐมนตรี Kerry เรื่องนโยบายสหรัฐฯ ที่รุกรานตะวันออกกลางและส่วนอื่นๆของโลกด้วย
รัฐมนตรี Kerry กล่าวว่ายังมีคนจำนวนมากที่ยึดติดกับอดีต และยังไม่สามารถปรับตัวได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง และได้เตือนถึงอันตรายจากการแบ่งแยกในสังคม ระหว่างผู้ที่รบในสงครามและผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ดังกล่าว หรือไม่มีคนในครอบครัวเกี่ยวข้องกับกองทัพ
อย่างไรก็ตามเขากล่าวว่าคนอเมริกันสามารถทำเพื่อประเทศชาติได้โดยไม่ต้องเป็นทหาร
รัฐมนตรี Kerry ย้ำว่าบทเรียนของสหรัฐฯ ที่สำคัญที่สุดจากสงครามเวียดนาม คือความจำเป็นที่ต้องมองความเป็นไปของโลกจากประสบการณ์ของคนในประเทศอื่น หากทำเช่นนั้นได้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าอเมริกาจะอยู่ในสถานะที่ดีกว่านี้มาก
งาน Vietnam War Summit ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัสวิทยาเขตออสตินนี้ มีการแสดงดนตรีด้วย ซึ่งนักดนตรีนิยมเล่นเพลงที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านสงครามในยุคนั้น
(รายงานโดย Joseph Mok เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)