กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าเวียดนามรณรงค์ต่อต้านการใช้ยาแผนโบราณที่ทำจากกระดูกเสือ

กลุ่มนักอนุรักษ์สัตว์ป่าในเวียดนามเริ่มรณรงค์ทางโทรทัศน์เพื่อต่อต้านการมอบยากระดูกเสือเป็นของขวัญราคาแพงแก่ผู้ร่วมงานหรือเจ้านายเพื่อแสดงถึงสถานะทางสังคม และในขณะที่หลายคนสนับสนุนการรณรงค์นี้ พวกเขาเกรงว่าการรณรงค์นี้อาจจะสายเกินไปที่จะช่วยอนุรักษ์เสือในเวียดนาม

หน่วยงาน Education for nature Vietnam หรือ ENV ทำการรณรงค์ต่อต้านการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกระดูกเสือโดยวางแผนที่จะเผยแพร่การรณรงค์นี้ผ่านทางสถานีโทรทัศน์เเห่งประเทศเพื่อสร้างความตื่นตัวแก่ประชาชนว่าไม่ควรชื่นชมคนที่มอบยากระดูกเสือเป็นของขวัญเเก่คนอื่นหรือเพื่อนร่วมงานเพื่อเเสดงถึงสถานะทางสังคมของตน

Le Mai Hanh โฆษกหญิงแห่ง ENV กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าในเวียดนาม คนนิยมซื้อยากระดูกเสือเพื่อให้เป็นของขวัญเพราะมองว่าเป็นการแสดงออกถึงสถานะทางสังคม เธอคิดว่าเป็นการดีที่ให้สถานีโทรทัศน์ช่วยเป็นสื่อกลางในการเผยข้อความรณรงค์ต่อต้านการบริโภคยากระดูกเสือนี้

ยากระดูกเสือถือเป็นยาแผนโบราณในเวียดนาม ทำจากกระดูกเสือที่ต้มจนกลายสภาพเป็นกาวเหนียว ชาวเวียดนามใช้ยากระดูกเสือรักษาโรคข้อกระดูกและเชื่อว่าเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ยากระดูกเสือนี้ขายในราคา 1,500 ดอลล่าร์สหรัฐต่อ100 กรัมหรือประมาณ 45,000 บาทและอวัยวะส่วนอื่นๆ ของเสือยังถูกนำไปใช้ในการทำไวน์เสือและทำเป็นของตกแต่งบ้าน

หน่วยงาน ENV ทำงานต่อต้านการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ป่ามาก่อนหน้านี้ แต่นี่เป็นครั้งเเรกที่เจาะจงเป้าหมายไปที่ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเสือเป็นการเฉพาะ ชาวเวียดนามนิยมบริโภคสัตว์ป่าพันธุ์หายากและเป็นประเทศผู้ซื้อนอแรดรายใหญ่ชาติหนึ่งโดยนำไปใช้บำบัดอาการเมาค้าง แรดเวียดนามกลายเป็นสัตว์สูญพันธุ์อย่างเป็นทางการเมื่อปีพุทธศักราช 2554

Dr.Nguyen Xuan Huong อดีตประธานสมาคมยาแผนโบราณเวียดนามเห็นด้วยกับการณรงค์ต่อต้านการบริโภคยากระดูกเสือโดยองค์การ ENV และไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่ายากระดูกเสือมีคุณสมบัติทางการแพทย์แต่คนเวียดนามยังนิยมเพราะถือเป็นการแสดงออกทางสถานะทางสังคม

อดีตประธานสมาคมยาแผนโบราณเวียดนามกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าคนบริโภคยากระดูกเสื่อเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ส่วนมากเป็นของปลอม

องค์การ ENV เปิดเผยว่าอาจจะมีเสือป่าเหลืออยู่ไม่เกิน 30 ตัว แต่ Dr. Naomi Doak ผู้ประสานงานโครงการ Greater Mekong Program for Wildlife Trade Monitoring network TRAFFIC กล่าวว่าสถานการณ์จริงอาจเเย่กว่าที่คิด

Dr. Naomi Doak กล่าวว่าหากมีจำนวนเสือป่าหลงเหลืออยู่ราว 30 ตัวอย่างที่คิดจริงๆ เสือป่าเหล่านี้จะกระจายอยู่ใน เวียดนาม ลาวและกัมพูชา โดยข้ามชายแดนไปมาระหว่างลาวกับเวียดนามและกัมพูชากับเวียดนาม เธอคิดว่าเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในทางนิเวศวิทยาว่าเสือป่าได้สูญพันธุ์ไปแล้วในเวียดนามเพราะจำนวนประชากรเสือที่หลงเหลืออยู่น้อยเกินไปที่จะคงอยู่ได้อย่างยั่งยืน

การเลี้ยงเสือในฟาร์หมเพื่อการค้าถือว่าผิดกฏหมายในเวียดนามแต่มีฟาร์หมหลายแห่งที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้โดยดำเนินการในรูปศูนย์อนุรักษ์เสือ แต่ Dr. Naomi Doak กล่าวว่าศูนย์อรักษ์เสือเหล่านี้ไม่เคยปล่อยเสือที่ผสมพันธุ์ได้กลับเข้าป่าเลยเเม้เเต่ตัวเดียว

Dr. Naomi Doak กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าจุดประสงค์ของศูนย์อนุรักษ์เสือเหล่านี้ไม่ชัดเจนและน่าสงสัยเพราะลูกเสือที่เกิดจากการผสมพันธุ์เสือในศูนย์อนุรักษ์เหล่านี้ไม่เคยถูกปล่อยออกไปสู่ป่าเลย Dr. Naomi Doak กล่าวว่าการค้าขายเสือที่ผสมพันธุ์ได้ในศูนย์อนุรักษ์เสือสร้างความยั่งยืนเเก่ธุรกิจค้าขายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเสือ

Dr. Naomi Doak คิดว่าการรณรงค์ด้วยการสื่อสารถึงผู้บริโภคโดยตรงเป็นยุทธวิธีที่ดี ในขณะเดียวกันหากเวียดนามต้องการอนุรักษ์เสืือซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ป่าที่สำคัญที่สุดของประเทศ รัฐบาลเวียดนามต้องจริงจังมากขึ้นในการตรวจสอบและควบคุมเสือที่ถูกเลี้ยงเอาไว้ในศูนย์อนุรักษ์ต่างๆ