Your browser doesn’t support HTML5
เครื่องบินลำเลียงดาโกต้า หรือ C-47 สกายเทรน ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 บินเหนือน่านฟ้าชายหาดนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศสอีกครั้ง
จ่าสิบตรี ทอม ไรซ์ (Tom Rice) วัย 97 ปี อดีตทหารพลร่ม (Airborne)สังกัดกองพลพลร่มที่ 101 กองทัพสหรัฐฯ อยู่บนเครื่องบินลำนี้ เพื่อรำลึกภารกิจการกระโดดร่มลงสู่พื้นในแบบเดียวกับที่เขาทำในเช้ามืดวัน ดีเดย์ หรือ วันที่ทหารกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตร กรีฑาทัพยกพลขึ้นบกเพื่อตีโต้กลับกองทัพนาซีเยอรมัน เพื่อปักหลักยึดหัวหาดนอร์มังดี ของฝรั่งเศส เมื่อ 75 ปีก่อน
Your browser doesn’t support HTML5
การได้กลับมาเหิรเวหาในโอกาสสำคัญนี้อีกครั้ง ทำให้ตำนานสงครามอย่าง คุณปู่ไรซ์เผยถึงความประทับใจในเกือบจะทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น ท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้คนที่เอาใจช่วยในภารกิจครั้งนี้
"ทุกอย่างดูดีไปหมด ตั้งแต่การขึ้นบิน การกระโดดร่ม และการลอยเหินฟ้าในอากาศ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบไปหมด" จ่าสิบตรี ทอม ไรซ์ กล่าวหลังจากลงมาสัมผัสพื้นใจกลางทุ่งหญ้านอกเมืองคาเรนแทน (Carentan) ของฝรั่งเศส
'วันดีเดย์' เมื่อ ที่ 6 มิ.ย. พ.ศ.2487 (ค.ศ.1944) จ่าสิบตรี ไรซ์ แห่งกองพลพลร่มที่ 101 ของสหรัฐฯยังมีอายุเพียง 22 ปีเท่านั้น
เขากระโดดลงจากเครื่องบินลำเลียง พร้อม ๆกับทหารพลร่มกว่า 13,000 นาย ข้ามแนวตั้งรับของกองทัพเยอรมันบนชายฝั่งเขาจดจำได้ดีว่า กองพลพลร่มที่ 101 ต่างกระจัดกระจายกันไปทั่วบริเวณ และกว่าจะรวมกันติดก็ต้องใช้เวลานานกว่าสัปดาห์หลังการยกพลขึ้นบกที่ดุเดือดประสบความสำเร็จ
วิลเลี่ยม มิลเลอร์ (William Miller)อดีตทหารผ่านศึกในวันดีเดีย์ วัย 96 ปี และเป็นส่วนหนึ่งของทหาร 21,000 นาย จากกองพลทหารราบที่ 4 ของสหรัฐฯ ที่ร่วมปฏิบัติการยกพลขึ้นบก บนชายหาดยูทาห์ ไ เมื่อ 75 ปีก่อน เป็นอีกคนที่เดินทางกลับมาร่วมรำลึกสมรภูมิรบสำคัญที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2บอกว่า
"ทุกวันนี้คนรุ่นหนุ่มสาวไม่ค่อยรับรู้กันแล้ว ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันดีเดย์"
แต่การจัดพิธีรำลึกถึงเหตุการณ์ในสมรภูมิรบที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังคงเต็มไปด้วยความหมายสำคัญสำหรับกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรที่รบเคียงไหล่ใน 'วันดีเดย์'
พันจ่า (พิเศษ) ร็อกกี้ คาร์ (Rockey Carr) แห่งกองทัพบกสหรัฐฯ บอกว่า การรวมตัวของกองทัพพันธมิตรในทุก ๆปี คือความเข้มแข็งที่เริ่มต้นมาจากชัยชนะในวันดีเดย์ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รักษาสันติภาพมาได้จนทุกวันนี้
ในปีนี้กองทัพสหรัฐฯส่งทหารกว่า 1,300 นาย เข้าร่วมในพิธีและพบปะกับทหารหลายพันนายจากกองทัพของแคนาดา และกองทัพหลายประเทศในยุโรป ที่ร่วมรบในวันดีเดย์ 6 มิถุนายน เพื่อสานมิตรภาพและความทรงจำร่วมกัน
Alison Osborne นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่พาลูกๆมาร่วมงานในปีนี้ บอกว่า ผู้คนในยุคสงครามโลกครั้งที่สองที่น่ายกย่องล้วนอยู่ในวัยที่กำลังจะจากพวกเราไป ดังนั้นการได้มาพบ และพาเด็กๆ มาสัมผัสทำความเข้าใจเรื่องราวและเหตุการณ์ความเสียสละเหล่านั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ