ร้านอาหารเฟรนไชส์ในสหรัฐฯ คึกคักรับวาเลนไทน์ แต่ทำไมร้านเล็กๆ จึงไม่ตื่นเต้น?

diyarbakir valentines day 4

และเนื่องในวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. ร้านค้าต่างๆ ในสหรัฐฯ ต่างพากันเสนอบริการพิเศษ รวมทั้งออกเมนูใหม่ๆ มาเพื่อเอาใจคู่รักโดยเฉพาะ

ตัวอย่างเช่น ร้านไก่ทอด KFC ได้แจกการ์ดวันวาเลนไทน์ที่สามารถขูดเพื่อดมกลิ่นไก่ทอดบนการ์ดนั้นได้ สำหรับลูกค้าที่ซื้อไก่ทอดในราคา $10 ขึ้นไป

ขณะที่คู่แข่งของ KFC คือ Wingstop ก็ขายชุดไก่ทอดพิเศษ Valentine's Day kit ราคา $25 ที่มาพร้อมบัตรกำนัลและกล่องรูปหัวใจเอาไว้ใส่ไก่ทอดโดยเฉพาะ ซึ่งขายไปแล้วกว่า 1,000 ชุดภายในช่วง 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ส่วนร้าน Panera Bread ให้คู่รักในร่วมจับรางวัลชิงโชคอาหารพิเศษสำหรับวันแต่งงานของผู้ที่โชคดีชนะรางวัลที่หนึ่ง

สมาคมผู้ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐฯ ประเมินว่า คนอเมริกันจะใช้จ่ายเงินเป็นค่าดินเนอร์ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ราว 3,700 ล้านดอลลาร์ ทั้งร้านอาหารแบบฟาสต์ฟู้ด หรือร้านที่บรรยากาศโรแมนติกแต่ราคาแพงกว่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ บางแห่ง วันวาเลนไทน์นั้นอาจไม่ใช่วันที่พวกเขาชื่นชอบเท่าใดนัก เพราะตามสถิติพบว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันที่ร้านอาหารมียอดขายดีเป็นลำดับที่ 107 ของแต่ละปีอ้างอิงตามรายงานของบริษัทสำรวจสถิติ Wombly ที่เก็บข้อมูลจากร้านอาหารกว่า 26,000 แห่งเมื่อปีที่แล้ว

โดยร้านอาหารเล็กๆ นั้น มีรายได้โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียง 4% จากวันปกติ ซึ่งเมื่อเทียบกับต้นทุนที่ต้องเพิ่มขึ้นในวัวาเลนไทน์แล้ว ก็อาจจะไม่คุ้มเท่าใดนักสำหรับร้านบางร้าน

USA Today รายงานว่า สาเหตุที่ทำให้คืนวันวาเลนไทน์ที่คู่รักชาวอเมริกันส่วนใหญ่มีธรรมเนียมต้องออกไปทานข้าวนอกบ้าน แต่กลับไม่ใช่วันที่พิเศษนักสำหรับร้านอาหารนั้น มีหลายปัจจัยด้วยกัน

เช่น การที่ต้องเสียโต๊ะใหญ่ไปสำหรับคู่รักที่มักมากันแค่สองคน และแต่ละคู่มักนั่งนานกว่าปกติทำให้รับลูกค้าใหม่ได้น้อยลง นอกจากนี้ ยังมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการจ้างคนทำงานมากขึ้นในวันนี้ ค่าประดับตกแต่งร้านพิเศษ และค่าวัตถุดิบที่อาจเพิ่มขึ้นเฉพาะวันนี้ด้วย

นักวิเคราะห์ของ Wombly บอกว่า ในขณะที่ร้านอาหารบางประเภท เช่น อาหารฝรั่งเศส หรืออิตาลี อาจจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่สำหรับร้านอาหารทั่วไป วันวาเลนไทน์ก็คงจะเป็นวันที่ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นกว่าวันอื่นๆ มากนัก