ขณะนี้ชาวอุยกูร์ 48 รายที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในไทย อดอาหารประท้วงเข้าสู่วันที่ 15 และสหรัฐฯ รวมทั้งองค์กรต่างประเทศกำลังให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากชนกลุ่มน้อยเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะถูกส่งตัวไปยังจีน ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งระบุว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
รุชาน อับบาส ผู้อำนวยการบริหารของกลุ่ม Campaign for Uyghurs และประธานคณะกรรมการบริหาร World Uyghur Congress กล่าวว่า มี "รายงานที่สร้างความน่ากังวัลอย่างยิ่ง" ว่าทางการไทยจะเนรเทศชาวอุยกูร์เหล่านี้ไปยังจีน และเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นก่อนกำหนดการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีเเพทองธาร ชินวัตร วันที่ 4 กุมภาพันธ์
อับบาส กล่าวกับวีโอเอว่า "หากไทยเลือกที่จะเนรเทศชาวอุยกูร์ ทั้ง ๆ ที่สหรัฐฯ เห็นว่าเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในซินเจียง และสหประชาชาติพบหลักฐานว่ามีการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ มันจะเป็นการละเมิดกฎหมายต่างประเทศอย่างรุนเเรง และเหยียบย่ำหลักมนุษยธรรม ประเทศไทยควรเตรียมตัวเจอกับคลื่นยักษ์ของเสียงประณามและผลที่รุนเเรงทางการเมืองเเละเศรษฐกิจ"
ทั้งนี้ ชาวอุยกูร์เหล่านี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไทยตั้งเเต่ปี 2014 หรือราว 11 ปีก่อน คนเหล่านี้หนีออกจากมณฑลซินเจียงในจีน ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาระบุว่าตกเป็นเป้าของการถูกกดขี่
ชายชาวอุยกูร์ 48 คนนี้ถูกจับในปีดังกล่าว ร่วมกับเพื่อนร่วมชาติพันธุ์กว่า 300 คนที่พยายามข้ามชายเเดนไปยังมาเลเซีย ตามเส้นทางค้ามนุษย์จากมณฑลยูนนานของจีน

ตำรวจยืนอยู่ด้านนอกของศูนย์ควบคุมตัวชาวอุยกูร์ที่ถูกจับในกรุงเทพมหานคร 11 ม.ค. 2025 (AP Photo/Haruka Nuga)
ในปี 2015 ชาวอุยกูร์ 109 คนในกลุ่มนี้ ถูกเนรเทศกลับไปยังจีน และนานาชาติเเสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง
ในปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรมของคนเหล่านั้น ส่วนอีก 173 คนที่เป็นผู้หญิงได้รับการส่งตัวไปยังตุรกี ในช่วงเวลากว่า 10 ปีนี้ ยังมีผู้ที่ถูกควบคุมตัวชาวอุยกูร์เสียชีวิต 5 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 2 คนเสียชีวิตอีกด้วย
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวผ่านโฆษกว่า "เราติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และกังวลอย่าลึกซึ้งต่อรายงานที่เกิดขึ้น" และว่าสหรัฐฯ กำลังทำงานกับรัฐบาลไทยในประเด็นดังกล่าว
"เรายังคงเร่งเร้าให้รัฐบาลไทยเคารพหลักการห้ามผลักดันกลับ และเชิดชูในพันธกิจที่เกี่ยวข้องกับการไม่ผลักดันกลับภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว "ตามที่รัฐมนตรี (ต่างประเทศสหรัฐฯ) มาร์โค รูบิโอระบุในช่วงการพิจารณายืนยันการเเต่งตั้ง ว่าเขาเตรียมที่จะใช้เครื่องมือทางการทูตและการเป็นพันธมิตรที่ยาวนานระหว่างสหรัฐฯและไทย ในการทำงานกับรัฐบาลไทย" ในเรื่องนี้
โฆษกและอธิบดีกรมสารนิเทศแห่งกระทรวงการต่างประเทศของไทย นิกรเดช พลางกูร
ด้านโฆษกและอธิบดีกรมสารนิเทศแห่งกระทรวงการต่างประเทศของไทย นิกรเดช พลางกูร กล่าวในวันศุกร์ ที่งานเเถลงข่าวเป็นภาษาอังกฤษว่า "ยังไม่มีการตัดสินใจในเรื่องนี้" โดยทางการไทย และว่า "การตัดสินใจใด ๆ ในเรื่องนี้จะอยู่บนพื้นฐานของกรอบกฎหมายภายในประเทศ หลักการมนุษยธรรม โดยเฉพาะหลักการห้ามผลักดันกลับ รวมทั้งพันธกิจของไทยที่จะหลีกเลี่ยงการส่งคนไปในที่ที่พวกเขาจะเผชิญกับการทรมานและบังคับสูญหาย"
เขายังได้ยืนยันถึงความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ 48 คนในไทย ณ เวลานี้ด้วย
เมื่อปี 2021 สหรัฐฯ ระบุอย่างเป็นทางการว่าการปฏิบัติของจีนต่อชาวอุยกูร์เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และในรายงานของสำนักงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติระบุในปี 2022 ว่าการกระทำของจีนในซินเจียงอาจถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งรวมถึงการทรมาน บังคับใช้เเรงงาน และบังคับทำหมัน
จีนก็ปฏิเสธคำกล่าวหาทั้งหมดนี้และโต้ว่า ทั้งหมดที่ดำเนินการไปเป็นมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายทั้งสิ้น
ในส่วนของประเด็นชาวอุยกูร์ที่ถูกคุมตัวอยู่ที่ไทยนั้น สถานทูตจีนประจำกรุงเทพฯ กล่าวเมื่อวันพุธที่แล้วว่า คนเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ กล่าวถึงสุขภาพของชาวอุยกูร์ที่ถูกควบคุมตัวในไทยว่า 23 คน จากทั้งหมด 48 คนป่วยด้วยโรค เบาหวาน ไตทำงานผิดปกติ อัมพฤต โรคผิวหนัง รวมทั้งปัญหาการทำงานของหัวใจ ปอดและระบบทางเดินอาหาร
ส.ส. สหรัฐฯ ตำแหน่งอาวุโสในคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาผู้เเทนสหรัฐฯ เกรกอรี มีกส์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า หากชาวอุยกูร์เหล่านี้ถูกเนรเทศกลับไปยังจีน ไทยจะละเมิดหลักการห้ามผลักดันกลับ และพันธะที่มีต่ออนุสัญญาของสหประชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการกระทำอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี
ส.ส.มีกส์ เรียกร้องให้ทางการไทยการันตีการปกป้องชาวอุยกูร์เหล่านี้ และให้พวกเขามีโอกาสเข้ากระบวนการขอลี้ภัย รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ไทยดูเเลด้านสุขภาพของพวกเขา
- ที่มา: วีโอเอ