รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเยือนเอเชียปลายสิงหาคม เน้นย้ำความสำคัญของสิงคโปร์และเวียดนาม

FILE - U.S. Vice President Kamala Harris delivers virtual remarks to the National Bar Association in the Eisenhower Executive Office Building's South Court Auditorium at the White House in Washington, July 27, 2021.

Your browser doesn’t support HTML5

US Vice President Visits Asia

รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสของสหรัฐฯ มีกำหนดออกเดินทางเยือนสิงคโปร์และเวียดนามระหว่างวันที่ 20 -26 สิงหาคมนี้ โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่าสองประเทศสมาชิกของอาเซียนดังกล่าวมีความสำคัญต่อความสัมพันธ์และยุทธศาสตร์ความมั่นคงของสหรัฐฯ สำหรับภูมิภาคเอเชีย

ซึ่งการเดินทางเยือนสองประเทศที่ว่านี้จะเป็นการเยือนเอเชียครั้งแรกของเธอในตำแหน่งรองประธานาธิบดีและนับเป็นครั้งแรกด้วยที่รองประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนเวียดนาม

ก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ หลายคน เช่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลอยด์ ออสตินที่ไปเยือนญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้มาก่อนแล้ว โดยเจ้ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังได้แวะเยือนสิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์เพื่อประกาศความสนับสนุนของสหรัฐฯ เกี่ยวกับทะเลจีนใต้

นอกจากนั้นเวนดี้ เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้เดินทางมาเยือนไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา รวมทั้งญี่ปุ่นเกาหลีใต้ มองโกเลีย กับจีนเช่นกัน

สำหรับการเยือนสองประเทศในเอเชียของรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสในเดือนสิงหาคมนี้ ฟิล กอร์ดอน รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่าเธอจะเน้นย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐฯ ในเรื่องภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรี รวมทั้งจะมุ่งเน้นเรื่องการเสริมสร้างความมั่นคงในระดับภูมิภาคโดยจะมีการหารือเพื่อขยายความร่วมมือด้านความมั่นคง การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ การปกป้องระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่อยู่บนพื้นฐานของกฎเกณฑ์ต่างๆโดยเฉพาะในทะเลจีนใต้ รวมทั้งจะมีการพบปะหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาล ผู้นำในภาคเอกชนและภาคประชาสังคมด้วย

สำหรับการเยือนสิงคโปร์และเวียดนามของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดังกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่าทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์สำหรับสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากตำแหน่งที่ตั้ง ขนาดของเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ด้านการค้า และการเป็นหุ้นส่วนร่วมมือด้านความมั่นคงต่างๆ เช่นเรื่องทะเลจีนใต้ เป็นต้น

รอยเตอร์ยังอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ผู้นี้ด้วยว่ารองประธานาธิบดีแฮร์ริสจะเน้นย้ำว่าการใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อการค้าทั่วอาณาบริเวณทะเลจีนใต้นั้นควรเป็นไปได้อย่างเสรีและไม่ควรมีประเทศหนึ่งประเทศใดที่ไม่เคารพสิทธิ์ของประเทศอื่น

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเป็นต้นมา เอเชียเป็นจุดสนใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นเพราะประธานาธิบดีไบเดนต้องการรับมือกับการขยายอิทธิพลของจีนทั้งในแง่การทหารและในทางการทูต และเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีไบเดนได้เตือนว่าประธานาธิบดีสี จิ้น ผิงของจีนต้องการทำให้ประเทศจีนมีกองทัพซึ่งทรงพลังที่สุดในโลกและมีระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่และโดดเด่นมากที่สุดของโลกภายในช่วงกลางทศวรรษที่ 2040 นี้ และการส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนมายืนเอเชียก็เป็นเครื่องแสดงความสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อภูมิภาคนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมออนไลน์ของ Aspen Security Forum เมื่อต้นสัปดาห์ นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุงของสิงคโปร์กล่าวว่าการเยือนเอเชียโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้นเป็นเรื่องที่มีคุณค่าเป็นอย่างมากเพราะช่วยแสดงให้เห็นว่าวอชิงตันรู้ว่ามีผลประโยชน์อย่างสำคัญที่จะต้องปกป้องและช่วยส่งเสริมในภูมิภาคนี้

อย่างไรก็ตามผู้นำสิงคโปร์ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่เสื่อมถอยลง และว่าหลายประเทศในเอเชียต้องการให้สถานการณ์ดังกล่าวอยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมได้ เพราะพันธมิตรของสหรัฐฯ หลายประเทศต้องการจะรักษาความสัมพันธ์ที่มีอยู่อย่างลึกซึ้งกับประเทศมหาอำนาจทั้งสองนี้เอาไว้


ที่มา: AP, Reuters