รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส สนับสนุนข้อเรียกร้องจากบรรดาผู้นำโลกให้มีการสืบสวนเหตุรัสเซียบุกโจมตียูเครนว่าเข้าข่าย 'อาชญากรรมสงคราม' หลังจากเพิ่งเกิดการโจมตีที่โรงพยาบาลผดุงครรภ์แห่งหนึ่งในเมืองมารีอูโพล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งเด็กและสตรีตั้งครรภ์
รองปธน.แฮร์ริส เน้นย้ำความจำเป็นของการสืบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวก่อนพบหารือกับประธานาธิบดีโปแลนด์ อันด์รแซย์ ดูดา เพื่อแสดงความสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อสมาชิกองค์การนาโต้ในยุโรปตะวันออก
รองปธน.สหรัฐฯ ยังได้ประกาศมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมูลค่า 53 ล้านดอลลาร์สำหรับประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากการรุกรานของรัสเซีย เพิ่มเติมจากความช่วยเหลือด้านการแพทย์ อาหารและสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ มูลค่า 54 ล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ มอบให้เมื่อเกือบสองสัปดาห์ที่แล้ว
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เรียกการโจมตีโรงพยาบาลผดุงครรภ์เมื่อวันพุธว่า "การสังหารล้างเผ่าพันธุ์" พร้อมเรียกร้องให้องค์การนาโต้กำหนดเขตห้ามบินเหนือยูเครน แต่ทางสหรัฐฯ ยังคงบอกปัดข้อเรียกร้องดังกล่าว รวมทั้งข้อเสนอของโปแลนด์ที่ขอให้ขนย้ายเครื่องบินรบไปยังฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ ก่อนที่จะส่งไปให้กับยูเครน โดยให้เหตุผลว่าการทำเช่นนั้นจะเป็นการดึงสหรัฐฯ ให้เข้าสู่สงครามกับรัสเซียโดยตรง
ทางด้านรัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ามุ่งโจมตีพลเรือนยูเครน พร้อมบอกปัดว่ารายงานเรื่องการโจมตีโรงพยาบาลผดุงครรภ์ในเมืองมารีอูโพลนั้นเป็น "ข่าวปลอม" โดยระบุว่าอาคารที่ถูกโจมตีนั้นเคยเป็นโรงพยาบาลผดุงครรภ์ที่ถูกดัดแปลงเป็นฐานที่มั่นของทหารยูเครน
และเมื่อวันพุธเช่นกัน องค์กรสิทธมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International) กล่าวว่า จากการสืบสวนเหตุการณ์รัสเซียโจมตีทางอากาศใส่เมืองเชอร์นีฮีฟเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 47 คน อาจเข้าข่าย 'อาชญากรรมสงคราม'
โดยจากการสัมภาษณ์ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และวิเคราะห์วิดีโอ ชี้ให้เห็นว่ามีการใช้ระเบิดโจมตีแบบไม่เจาะจงเป้าหมายใส่ประชาชนที่เข้าแถวรอความช่วยเหลือด้านอาหารในเมืองดังกล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐฯ กำลังเจรจากับยูเครนและพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อจัดหาอาวุธให้แก่ยูเครนสำหรับใช้ในการป้องกันตนเองภาคพื้นดิน นอกจากนี้ยังได้จัดส่งกองทหารประจำขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานสองชุดจากฐานทัพในเยอรมนีไปประจำการที่โปแลนด์เพื่อช่วยปกป้องภัยคุกคามต่อสมาชิกขององค์การนาโต้ด้วย
- ข้อมูลบางส่วนจากวีโอเอ เอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์