Your browser doesn’t support HTML5
สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการขาดดุลการค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวในอัตราที่รวดเร็วกว่าคู่แข่งทั่วโลก และนักวิเคราะห์เชื่อว่า ทิศทางการขยายตัวจะดำเนินต่อไป เพราะการอัดฉีดงบกระตุ้นก้อนโตจากรัฐบาล
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยในวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ในเดือนกุมภาพันธ์นั้น สหรัฐฯขาดดุลการค้าถึง 71,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 4.8 เปอร์เซ็นต์ และสูงกว่าตัวเลขที่สำนักข่าวรอยเตอร์สสำรวจจากนักเศรษฐศาสตร์หลายสำนัก
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การส่งออกของสหรัฐฯ ลดลง 2.6 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนกุมภาพันธ์ อันเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ขณะที่ การนำเข้าลดลง 0.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน่าจะเกิดจากสภาพตึงตัวของห่วงโซ่อุปทานมากกว่าเรื่องของความต้องการในประเทศที่อ่อนตัวลง
อย่างไรก็ดี สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เริ่มกลับมาคึกคักขึ้น พร้อมๆ กับการแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการที่รัฐบาลดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนด้วยงบประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่สามารถช่วยกระตุ้นความต้องการในประเทศ และนำมาซึ่งการนำเข้าที่สูงขึ้นด้วย
นอกจากนั้น การที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน เสนอแผนงานลงทุนเพื่อพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ น่าจะส่งผลให้มีการนำเข้ามากขึ้นและมีการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อไป
ด้วยเหตุนี้ ไรอัน สวีท นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Moody’s Analytics ให้ความเห็นว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐฯ อาจจะปรับสูงขึ้นได้อีกในปีนี้และปีหน้า อันเนื่องมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน