หุ้นสหรัฐฯดิ่งหนัก "ดัชนีเอสแอนด์พี" แตะจุดต่ำสุดในรอบ 14 เดือน

FILE - Traders are seen working on the floor of the New York Stock Exchange, Nov. 14, 2018.

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์ โดยดัชนีสำคัญอยู่ในแดนลบมากกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ทั้งสิ้น และดัชนี S&P 500 ดิ่งสู่จุดปิดตำ่สุดในรอบ 14 เดือน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาพรวมการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลง

นอกจากนี้ ความสนใจของตลาดยังคงอยู่ที่ผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Federal Reserve (Fed) ในวันอังคารและพุธสัปดาห์นี้อีกด้วย

ทั้งนี้ในวันจันทร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีต กดดันการทำงานของ Fed ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่ควรได้รับอิสระในการตัดสินใจเรื่องนโยบายดอกเบี้ย

ผู้นำสหรัฐฯกล่าวว่า ทั้งๆที่ค่าเงินดอลลาร์อยู่ในระดับที่เเข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ Fed และส่วนอื่นๆของโลกกำลังปั่นป่วน Fed ยังคงคิดที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย เขาบอกว่า "เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ" ที่ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯคิดเช่นนี้

SEE ALSO: 'ทรัมป์' ระบุผิดหวังกับประธานคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่ยังไม่ไล่ออก

ผู้นำสหรัฐฯยังได้เคยเเสดงความผิดหวังที่ตนเป็นผู้เเต่งตั้งนาย Jerome Powell เป็นประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากเขาขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ

เมื่อตลาดหุ้นที่นครนิวยอร์กปิดการซื้อขายในวันจันทร์ ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 507.73 จุดหรือ 2.11 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 23,592.78

และ S&P 500 ตำ่ลง 54.12 จุดหรือ 2.08 เปอร์เซ็นต์ โดยปิดที่ 2,545.83 จุด

ส่วน Nasdaq ลดลง 156.93 จุด คิดเป็นร้อยละ 2.27 ณ ระดับ 6,753.73 จุด

หุ้นที่ลดลงแรงประกอบด้วย หุ้นบริษัทค้าปลีกออนไลน์ Amazon และบริษัทซอฟท์แวร์ Microsoft เป็นต้น