Your browser doesn’t support HTML5
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เตรียมเสนอรางวัลนำจับสูงสุดถึง 10 ล้านดอลลาร์ สำหรับผู้ที่ให้เบาะแสข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ต่อโครงสร้างสำคัญของสหรัฐฯ ที่มีรัฐบาลต่างชาติหนุนหลังอยู่ ขณะที่ ทำเนียบขาวตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจที่จะทำหน้าที่ประสานความร่วมมือสกัดกั้นการโจมตีด้วยโปรแกรมมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) แล้ว
เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวรายหนึ่ง บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังเปิดตัวเว็บไซต์ stopransomware.gov สำหรับประชาชนเพื่อใช้ในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์และการพัฒนาเครือข่ายให้มีความยืดหยุ่นพอจะรับศึกต่างๆ ด้วย
นอกเหนือจากมาตรการทั้งหมดที่ว่ามานี้แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ยังประกาศในวันพฤหัสบดี ว่าจะดำเนินมาตรการต่อสู้กับการโจมตีด้วย Ransomware ที่จะดำเนินการโดยหน่วยงาน Financial Crimes Enforcement Network ที่ปฏิบัติงานภายใต้กระทรวงการคลัง โดยจะทำงานร่วมกับธนาคารต่างๆ และบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย รวมทั้งองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการปราบปรามการฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล และการติดตามเงินค่าไถ่ที่จ่ายให้กับผู้ที่ใช้ Ransomware โจมตีให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ภายใต้การดำเนินงานเหล่านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งความหวังว่าจะสามารถกู้เงินค่าไถ่ที่นำจ่ายไปในคดีที่เกี่ยวกับ Ransomware ทั้งหลายคืนมามากขึ้น หลังจากที่ สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) สามารถจัดการเอาเงินค่าไถ่ 4.4 ล้านดอลลาร์ในคดีการโจมตีบริษัทธุรกิจน้ำมัน Colonial Pipeline เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กลับมาได้สำเร็จ