ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ บังคับสวมหน้ากากระหว่างซ้อมรบในทะเลจีนใต้

Crewmen of the U.S. aircraft carrier Theodore Roosevelt prepare their aircraft Tuesday, April 10,2018, in international waters off South China Sea.

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ผู้บัญชาการของกองทัพเรือสหรัฐฯ สองคน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการซ้อมรบในทะเลจีนใต้ กล่าวว่า ได้มีการใช้มาตรการที่เคร่งครัดในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งการบังคับให้ทหารเรือทุกคนต้องสวมหน้ากากระหว่างการซ้อมรบในน่านน้ำที่กำลังเกิดความตึงเครียดมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

มาตรการดังกล่าวถูกนำมาใช้หลังจากที่มีทหารหลายร้อยคนบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Theodore Roosevelt ที่ประจำการในมหาสมุทรแปซิฟิก ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเป็นเวลาหลายสัปดาห์เมื่อต้นปีนี้

พลเรือตรี จอร์จ วิคออฟ ผู้บัญชาการกองเรือจู่โจมที่ 5 ของเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Ronald Reagan ที่เข้าร่วมในการซ้อมรบครั้งนี้ กล่าวว่า ทหารทุกคนที่เข้าร่วมการซ้อมรบต้องสวมหน้ากาก และเว้นระยะห่างกับคนอื่น รวมทั้งแบ่งเวลารับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขขึ้นมาประจำการบนเรือด้วย

พลเรือตรีวิคออฟ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บนเรือทั้งสองลำนี้แต่อย่างใด

เรือบรรทุกเครื่องบินสองลำของกองทัพเรือสหรัฐฯ คือ USS Ronald Reagan และ USS Nimitz ร่วมซ้อมรบในทะเลจีนใต้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันประกาศอิสรภาพของอเมริกา โดยมีทหารเข้าร่วมกว่า 12,000 คน และมีเรือของกองทัพจีนหลายลำจับตามองอยู่ไม่ไกล

การซ้อมรบของกองทัพเรือในสหรัฐฯ ในปีนี้ มีขึ้นในขณะที่กำลังเกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ทั้งในประเด็นสงครามการค้า และการที่สหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่าปกปิดเรื่องการระบาดของโควิด-19 ตลอดจนข้อกล่าวหาว่าจีนใช้ประโยชน์จากการระบาดใหญ่ครั้งนี้ในการขยายอิทธิพลทางทหารในทะเลจีนใต้และพรมแดนอื่น ๆ

แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า การซ้อมรบครั้งนี้มีขึ้นเพื่อแสดงจุดยืนว่าด้วยการสนับสนุนเสรีภาพในการสัญจรทั้งทางทะเลและอากาศ ตลอดจนการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถกระทำได้ในเขตน่านน้ำสากล พร้อมยืนยันว่าเรือบรรทุกเครื่องบินระวาง 10,000 ตันทั้งสองลำ และเครื่องบินรบอีก 90 ลำบนเรือดังกล่าว คือสัญลักษณ์ของการแก้ไขความขัดแย้งในภูมิภาคนี้

ด้านรัฐบาลกรุงปักกิ่งได้ออกมาวิจารณ์การซ้อมรบของสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้ว่า เป็นการบ่อนทำลายเสถียรภาพความมั่นคงในภูมิภาคนี้ และสร้างความขัดแย้งในหมู่ประเทศในแถบทะเลจีนใต้

ขณะที่หนังสือพิมพ์ Global Times ของรัฐบาลจีน เรียกการซ้อมรบครั้งนี้ว่า "ไม่ต่างจากเสือกระดาษหน้าทางเข้าประตูบ้านจีน" และว่าจีนมีศักยภาพทางการทหารเกินพอที่จะปกป้องจุดยืนของจีนในทะเลจีนใต้