สหรัฐฯ มีอัตราการเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่บ่อยครั้งที่สุดในปี ค.ศ. 2023 เฉลี่ยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
การรวบรวมข้อมูลเหตุการณ์ความรุนแรงจากอาวุธปืน ซึ่งจัดทำโดยสื่อเอพีและยูเอสเอ ทูเดย์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยนอร์ธอีสเทิร์น ชี้ว่า มีผู้เสียชีวิต 88 คนจากเหตุสังหารหมู่ 17 ครั้งในช่วง 111 วันที่ผ่านมาของปี 2023
เฉลี่ยแล้วปีนี้เกิดเหตุสังหารหมู่ 1 ครั้งทุก ๆ 6.53 วัน โดยทุกครั้งอาวุธที่ใช้คือปืน ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยสูงสุดพอ ๆ กับเมื่อปี 2009
ทั้งนี้ การสังหารหมู่ในรายงานชิ้นนี้ หมายความถึงเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 4 คนขึ้นไปไม่รวมตัวคนร้าย ซึ่งเป็นคำนิยามเดียวกับสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ
โดยปีที่มีการก่อเหตุสังหารหมู่มากที่สุดในสหรัฐฯ ยังคงเป็นปี 2019 ซึ่งมีการก่อเหตุทั่งหมด 45 ครั้งตลอดทั้งปี ส่วนปีที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุสังหารหมู่มากที่สุด คือปี 2017 ที่มีผู้เสียชีวิต 230 คน รวมทั้งเหตุกราดยิงผู้คนในคอนเสิร์ตกลางแจ้งที่นครลาสเวกัสที่มีผู้เสียชีวิต 60 คน ซึ่งถือเป็นเหตุสังหารหมู่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในอเมริกา
แรงจูงใจในการก่อเหตุ
เหตุสังหารหมู่ทั่วอเมริกาในปีนี้เกิดจากสาเหตุหรือแรงจูงใจหลายอย่าง ตั้งแต่การฆาตกรรมก่อนฆ่าตัวตาย ความรุนแรงในครอบครัว การตอบโต้ของแก๊งค์อาชญากร เหตุผิงกราดในโรงเรียนและที่ทำงาน
อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีสิ่งบ่งชี้มากนักว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายทั้งในระดับรัฐและระดับประเทศเพื่อป้องกันเหตุสังหารหมู่ โดยเฉพาะกฎหมายควบคุมอาวุธปืน แม้ว่าเกิดแรงผลักดันในหลายรัฐให้การซื้อปืนทำได้ยากขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนลงนามในร่างกฎหมายเพิ่มการตรวจสอบประวัติผู้ที่จะซื้อปืนไรเฟิลและปืนลูกซองด้วย หลังจากก่อนหน้านี้กำหนดให้มีการตรวจสอบประวัติผู้ที่จะซื้อปืนพกเท่านั้น
และที่รัฐวอชิงตัน ร่างกฎหมายห้ามขายปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติหลายสิบประเภทก็ผ่านความเห็นชอบของสภาของรัฐนั้นแล้วและรอให้ผู้ว่าการรัฐลงนาม ส่วนที่รัฐเทนเนสซี ประชาชนจำนวนมากชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาเพื่อเรียกร้องให้มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดยิ่งขึ้น หลังจากเกิดเหตุยิงกราดที่โรงเรียนประถมศึกษาของเอกชนแห่งหนึ่งในรัฐนั้นเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน
ในระดับประเทศ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในกฎหมายควบคุมความรุนแรงจากอาวุธปืนเมื่อปีที่แล้ว โดยจะมีการตรวจสอบประวัติของคนหนุ่มสาวที่จะซื้อปืน และห้ามผู้ที่กระทำความผิดในคดีความรุนแรงในครอบครัวสามารถครอบครองอาวุธปืน ตลอดจนสนับสนุนกฎหมายที่อนุญาตให้ตำรวจสามารถขอคำสั่งศาลให้ยึดคืนปืนจากบุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะก่ออันตราย
ถึงกระนั้น ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปืนยังคงกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ในอเมริกาและสามารถซื้อหาได้ไม่ยาก เห็นได้จากยอดขายปืนที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นสถิติใหม่ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา
- ที่มา: เอพี