รายงานข่าวกรองสหรัฐฯ เตรียมเผยมกุฎราชกุมารซาอุฯ บงการสังหาร 'คาชอกกี'

Friends of slain Saudi journalist Jamal Khashoggi hold posters bearing his picture as they attend an event marking the second-year anniversary of his assassination in front of Saudi Arabia Istanbul Consulate, on Oct. 2, 2020.

รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมเปิดเผยรายงานข่าวกรองที่บ่งชี้ว่า มกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบีย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (Mohammed bin Salman) คือผู้อนุมัติให้สังหารนายจามาล คาชอกกี (Jamal Khashoggi) นักข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เมื่อปี ค.ศ. 2018 จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลสหรัฐฯ

แหล่งข่าวระบุว่า รายงานข่าวกรองซึ่งส่วนใหญ่จัดทำโดยสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ CIA สรุปว่ามกุฏราชกุมารซาอุฯ ได้ทรงอนุมัติและอาจทรงสั่งการให้สังหารนายคาชอกกี ผู้เขียนบทความวิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ อย่างรุนแรงในหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์

เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้อ่านรายงานข่าวกรองชิ้นนี้แล้ว และคาดว่าจะเจรจาทางโทรศัพท์กับกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดิอาระเบีย พระราชบิดาของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เกี่ยวกับเรื่องนี้

การเปิดเผยรายงานฉบับนี้คือส่วนหนึ่งของการปรับความสัมพันธ์กับรัฐบาลซาอุฯ ภายใต้รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ให้กลับมาอยู่ในแนวทางเดิม หลังจากที่ประวัติด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลซาอุฯ และการแทรกแซงสงครามในเยเมน ถูกเมินเฉยจากรัฐบาลอเมริกันชุดก่อนมานานหลายปี

โฆษกทำเนียบขาว เจน ซากี กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะเจรจาผ่านทางกษัตริย์ซัลมานเท่านั้น พร้อมยืนยันว่ารายงานข่าวกรองเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายคาชอกกีจะถูกเปิดเผยเร็ว ๆ นี้

จามาล คาชอกกี ถูกฆาตกรรมเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018 หลังหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ระหว่างที่เดินทางเข้าไปในสถานกงสุลซาอุฯ ที่นครอิสตันบุล ประเทศตุรกี โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ตุรกีเปิดเผยรายงานที่ระบุว่า นักข่าววัย 59 ปีผู้มักวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ ผู้นี้ถูกแขวนคอและถูกหั่นศพเป็นชิ้น ๆ ภายในสถานกงสุลซาอุฯ แต่ไม่มีใครพบชิ้นส่วนร่างกายของเขา

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับปากไว้ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วว่า ตนจะทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุฯ สืบเนื่องจากการฆาตกรรมนายคาชอกกี และตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ได้สั่งระงับการขายอาวุธให้แก่กองทัพซาอุฯ ที่อาจนำไปใช้ในเยเมนไปแล้วด้วย