ส่องมาตรการวัคซีนสำหรับกิจการ ‘อินดอร์’ ในสหรัฐฯ พบเข้มงวดเพียงบางพื้นที่

Vaccine passport NYS

Your browser doesn’t support HTML5

Vaccine Mandates Selective Enforcement


แม้เจ้าหน้าสาธารณสุขของสหรัฐฯ จะออกมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แต่ก็ใช่ว่าผู้ประกอบการธุรกิจทุกรายจะปฏิบัติตามกฏข้อบังคับข้างต้น โดยเฉพาะการตรวจว่าผู้ที่มารับบริการนั้นได้รับวัคซีนแล้วหรือไม่

ตามรายงานของสำนักช่าวเอพี หลายเมืองในสหรัฐฯ มีการตรวจหลักฐานแสดงการฉีดวัคซีนสำหรับคนที่ต้องการทำกิจกรรมภายในอาคาร หรือ “อินดอร์” ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปรับประทานอาหารภายในร้าน ดื่มสังสรรค์ที่บาร์ หรือการเข้าชมคอนเสิร์ตหรือภาพยนต์

อย่างไรก็ตาม การกวดขันกฏข้างต้นขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ประกอบการเป็นราย ๆ ไปเท่านั้น

เจย์ แมเสลอร์ ชาวแคลิฟอร์เนียจากเมืองปาล์ม สปริง บอกกับเอพีขณะท่องเที่ยวที่ย่าน Fisherman’s Wharf ของเมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือของรัฐเดียวกันว่า “ธุรกิจบางแห่งระบุว่ามีการตรวจหลักฐานแสดงการฉีดวัคซีน แต่ก็ไม่ได้มีการตรวจจริงๆ”

คุณเจย์ บอกกับผู้ประกอบการเหล่านั้นว่า “ขอโทษนะที่คุณเลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ผมจะไม่ใช้บริการหรือซื้อของจากพวกคุณ” เขาบอกกับเอพีอีกด้วยว่าเขาเพิ่งเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองปรากและกรุงปารีส ซึ่งทั้งสองเมืองนี้มีการตรวจหลักฐานแสดงการฉีดวัคซีนสำหรับธุรกิจแบบ “อินดอร์” ทุกที่

A Katz's Deli employee checks proof of vaccination for diners who will be eating inside the restaurant, Tuesday, Aug. 17, 2021, in New York. New York City is asking restaurants, gyms, museums and many other indoor venues to have patrons show proof…

สำนักข่าวเอพีให้เหตุผลว่า ผู้ประกอบบางส่วนในสหรัฐฯ เลือกที่จะไม่กวดขันมาตรการดังกล่าวเพราะกลัวที่จะเสียลูกค้า บางรายให้เหตุผลว่าไม่มีพนักงานเพียงพอที่จะมาทำการตรวจเช็คเพราะสภาพตลาดงานในสหรัฐฯ ที่มีแรงงานออกเป็นจำนานมาก บางรายก็เลือกที่จะไม่ปฏิบัติเลยเพราะไม่ต้องการโต้เถียงกับลูกค้าบางราย

ในเดือนแรกที่มาตรการข้างต้นมีผลบังคับใช้ในรัฐนิวยอร์ก เจ้าหน้าได้ออกเอกสารเตือนให้ผู้ประกอบการถึง 6,000 แห่งที่ไม่ตรวจประวัติการรับการฉีดวัคซีนของผู้ที่เข้ามารับบริการ โดยธุรกิจถึง 15 แห่งถูกปรับ $1,000 ดอลลาร์เนื่องจากมีการกระทำผิดซ้ำอีกด้วย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเห็นว่า มาตรการข้างต้นที่บังคับให้คนแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ชาวอเมริกันกว่า 1,500 คนต่อวันเสียชีวิตจากโควิด แต่เอพีก็ชี้ว่า กฎดังกล่าวถูกฝ่าฝืนจากรัฐที่มีฐานเสียงการเมืองเป็นฝั่งอนุรักษ์นิยมมากกว่า หรือบางครั้งแม้จะเป็นในรัฐเดียวกัน การกวดขันก็ขี้นอยู่กับผู้ประกอบการแต่ละรายไป

ยกตัวอย่างเช่น โรงหนังแห่งหนึ่งในเมืองซานฟรานซิสโกทำการตรวจเช็คการฉีดวัคซีนด้วยการดูรูปถ่ายบัตรรับวัคซีนจากโทรศัพท์มือถือของคนที่มาดูภาพยนต์แบบผ่าน ๆ เท่านั้น แต่ที่โรงละครโอเปร่า เจ้าหน้าที่กลับตรวจเช็คบัตรรับวัคซีนตัว พร้อมทั้งใบขับขี่ของผู้ที่มาใช้บริการอย่างละเอียด และใครที่ไม่ได้นำใบรับวัคซีนมาก็จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าโรงละครโอเปร่า

เอพีชี้ว่า เจ้าหน้าสาธารณสุขของเมืองซานฟรานซิสโกมักตรวจตราร้านอาหารต่าง ๆ ว่าปฏิบัติตามมาตรการของรัฐหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าพวกเขาพึ่งเบาะเเสจากประชาชนที่โทรเข้ามาร้องเรียนเป็นหลัก

สำหรับเมืองลอสแองเจอลิส เจ้าหน้าตรวจสอบด้านสุขอนามัยพบว่าในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ในเดือนตุลาคม ธุรกิจบันเทิงจำนวน 38 แห่งจากธุรกิจหมวดเดียวทั้งหมด 250 แห่งควรได้รับการอบรมเรื่องกฎการฉีดวัคซีน และในสัปดาห์ถัดไป เมื่อเจ้าหน้าที่กลับไปตรวจธุรกิจบันเทิงเหล่านี้อีกครั้ง พวกเขาก็พบอีกว่า 15% จากบาร์เกือบ 80 แห่งที่เข้าไปตรวจสอบก็ไม่ตรวจหลักฐานการฉีดวัคซีนของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ เจ้าหน้าจึงที่ต้องอบรมเพิ่มขึ้นอีก

FILE - A waiter serves lunch to clients at Junior's Restaurant in New York. NYC will soon require proof of COVID-19 vaccinations for anyone who wants to dine inside at a restaurant.

ส่วนนครนิวยอร์ก เอพีพบว่าสถานที่ใหญ่ ๆ อย่างโรงละครบนถนนบรอดเวย์ หรือพิพิธภัณฑ์ มีการกวดขันเรื่องการตรวจประวัติฉีดวัคซีนที่เข้มงวด แต่ร้านกาแฟเล็กอาจจะไม่ทำเช่นนั้น

ผู้อำนวยการด้านธุรกิจร้านอาหารและการโรงแรมของสถาบัน Institute of Culinary Education ในนิวยอร์ก นายริก คาแมค อธิบายว่า มาตรการข้างต้นนั้นกำกวมและสร้างความสับสนให้แก่ร้านอาหาร เช่น ต้องตรวจเอกสารฉีดวัคซีนตัวจริงที่เป็นกระดาษ หรือตรวจแบบใบแบบอิเล็กทรอนิกส์ ร้านบ้างร้านจึงกวดขันไม่เหมือนกัน และพนักงานบางคนก็ไม่ได้ถูกอบรมมาให้รับมือกับลูกค้าที่ไม่พอใจอย่างรุนเเรงด้วย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางรายในสหรัฐฯ ก็เลือกที่จะกวดขันอย่างเข้มงวด เช่นร้าน the Highway Inn ในเมืองโฮโนลูลูของรัฐฮาวาย พนักงานเสิร์ฟจะตรวจบัตรฉีดวัคซีนพร้อมกับบัตรประจำตัว (ID) และมีการเก็บข้อมูลติดต่อของลูกค้าไว้ถึง 2 สัปดาห์

หุ้นส่วนเจ้าของร้าน รัสเซล ไรอัน บอกว่า ตอนแรกที่ออกกฏเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีเพียงลูกค้าที่ไม่ฉีดวัคซีนบางรายเท่านั้นที่ “เดินโมโหออกจากร้านไป” แต่ส่วนมากลูกค้าก็ปฏิบัติตามกฏและก็มีคนเข้ามาทานอาหารในร้านมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะประชากรจำนวนมากขึ้นได้รับวัคซีนแล้ว

สุดท้ายนี้ เอพีระบุว่า ผู้ประกอบการบางรายเลือกที่จะปรับการทำธุรกิจโดยที่ไม่ต้องมีตรวจใบรับวัคซีน บางรายปิดการทานอาหารในร้านทั้งหมดและเปลี่ยนไปขายแบบ take-out หรือแบบ outdoor แทนกันเลยทีเดียว

  • ที่มา สำนักช่าวเอพี