ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัปม์ ปฏิเสธว่าเขาเป็นผู้ขอให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พิจารณาขอลดโทษให้แก่ โรเจอร์ สโตน อดีตที่ปรึกษาในคดีคอร์รัปชั่นเกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ. 2016
เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่า ความเห็นของทีมอัยการที่รับผิดชอบการสืบสวนภายใต้การนำของอัยการพิเศษโรเบิร์ต มูลเลอร์ ที่ให้จำคุก สโตน เป็นเวลา 7 ถึง 9 ปี เป็นสิ่งที่น่าตกใจ สำหรับความผิดที่กระทำไป ซึ่งรวมถึงการโกหกต่อสภาคองเกรสและการขู่พยาน
ขณะที่ ปธน.ทรัมป์บอกว่า ความเห็นของอัยการ “เป็นเรื่องตลก” ผู้นำสหรัฐฯ ปฏิเสธ ที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เขาจะพิจารณาให้อภัยโทษแก่สโตนหรือไม่
ขณะเดียวกัน อัยการ 4 คนจากทีมรับผิดชอบคดีของสโตน ขอถอนตัวจากคดีกะทันหันในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังกระทรวงยุติธรรมออกมาให้ข่าวว่าจะบังคับให้อัยการลดโทษที่เสนอมา
ทั้งนี้ เป็นเรื่องไม่ปกตินัก ที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จะออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการลดโทษที่อัยการตัวแทนรัฐเสนอไว้ แต่เจ้าหน้าอาวุโสประจำกระทรวงยุติธรรมคนหนึ่งบอกกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ทางกระทรวงฯ เชื่อว่าความเห็นเกี่ยวกับบทลงโทษของสโตนนั้น รุนแรงเกินไป และไม่สอดคล้องกับระดับความผิดที่เขากระทำ
อย่างไรก็ตาม หากมีการลดโทษให้กับสโตนจริง คำถามที่จะตามมาก็คือ ประธานาธิบดีทรัมป์มีอิทธิพลต่อกระทรวงยุติธรรมมากเพียงใด โดยเฉพาะเมื่อกระทรวงนี้ควรปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่โอนเอียง และไม่เกี่ยวกับข้องกับจุดยืนทางการเมือง
รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มติดตามตรวจสอบ Restore Public Trust เรียกร้องให้สภาคองเกรสและผู้ตรวจการกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบว่า มีการแทรกแซงการทำงานของกระทรวงในเรืองนี้หรือไม่