นักการทูตสหรัฐฯ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับมาเจรจานิวเคลียร์ก่อนสิ้นปี

Your browser doesn’t support HTML5

US Korea Talks

เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ผู้ที่กำลังเยือนเกาหลีใต้สัปดาห์นี้ ขอร้องให้เกาหลีเหนือ หยุดการยั่วยุและกลับมาเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ

ท่าทีล่าสุดนี้ของนายสตีฟ บีกัน (Steve Beigun) เจ้าหน้าที่สูงสุดของสหรัฐฯ ด้านการทูตกับเกาหลีเหนือ เกิดขึ้นเมื่อเส้นตายวันที่ 31 ธันวาคมที่กรุงวอชิงตันและเปียงยางต้องมีข้อสรุปการเจรจานี้ เข้าใกล้มาทุกขณะ

เขากล่าวว่าขณะนี้ยังไม่สายเกินไปที่เกาหลีเหนือจะกลับมาเจรจาอีกครั้งหนึ่ง และสหรัฐฯไม่ได้กำหนดเส้นตายในเรื่องนี้ และมีเป้าหมายที่จะเติมเต็มความมุ่งหวังที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และผู้นำคิม จอง อึน มีร่วมกันที่การประชุมสุดยอดที่สิงคโปร์

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือส่งสัญญาณเชิงลบและขู่ว่าจะส่งของ “ขวัญคริสต์มาส” ให้กับสหรัฐฯ โดยอเมริกาต้องคิดให้ดีว่าอยากได้ของขวัญแบบใด

สตีฟ บีกัน กล่าวว่า การใช้คำพูดเช่นนั้นของเกาหลีเหนือเป็นเรื่องน่าเสียใจ และว่าถึงเวลาแล้วทีต้องทำงานให้สำเร็จลุล่วง เขายังได้แสดงความพร้อมจากฝ่ายสหรัฐฯ และบอกด้วยว่าเกาหลีเหนือทราบดีว่าจะติดต่อมาอย่างไร

การเยือนเกาหลีใต้ของนายบีกัน มีขึ้นหลังจากที่กาหลีเหนือทดสอบความพร้อมทางทหารสองครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่าเป็นการทดสอบเครื่องยนต์สำหรับขีปนาวุธพิสัยไกล ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่ากรุงเปียงยางอาจกลับมาทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลในไม่ช้านี้

นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น ความพยายามทางการทูตในรอบเกือบสองปีที่ผ่านมาระหว่างอเมริกาและเกาหลีเหนืออาจเสียเปล่า และการเผชิญหน้ากันอาจกลับมาอีกครั้ง

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ลงนามข้อตกลงร่วมกันที่สิงค์โปร์ หลังการหารือครั้งประวัติศาสตร์ และมีการย้ำจุดยืนที่ชัดเจนของเกาหลีเหนือในการยุติโครงการนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์บนคาบสมุทรเกาหลี

อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ทั้งคู่พบกันเป็นครั้งที่สองที่เวียดนาม แต่การหารือ จบลงเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่วางไว้ หลังจากที่ผู้นำทั้งสองไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ กันได้

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตเตือนเกาหลีเหนือว่าไม่ควรทำตัวเป็นศัตรูกับสหรัฐฯ หลังจากที่เกาหลีเหนือเพิ่งประกาศว่าได้ทำการทดสอบครั้งสำคัญ ที่ฐานยิงจรวดส่งดาวเทียม

ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตว่า "ผู้นำเกาหลีเหนือคิม จอง อึน เป็นคนฉลาดเกินกว่าที่จะทำตัวเป็นศัตรูกับสหรัฐฯ และยังทราบดีว่าจะสูญเสียมากแค่ไหนถ้าทำเช่นนั้น"

ก่อนหน้านั้นไม่นาน สื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานความสำเร็จในการทดสอบที่ฐานยิงจรวดส่งดาวเทียมที่สถานีตงชาง-รี ทางภาคเหนือของเกาหลีเหนือติดกับชายแดนจีน โดยบอกว่าความสำเร็จครั้งนี้จะส่งผลถึงจุดยืนทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือในอนาคตอันใกล้ แต่มิได้ระบุว่าการทดสอบนั้นคืออะไร

การทดสอบครั้งนั้นมีขึ้นในขณะที่เกาหลีเหนือเตือนสหรัฐฯ เรื่องการปรับเปลี่ยนท่าทีในการเจรจาด้านนิวเคลียร์ ซึ่งมีกำหนดเส้นตายภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้

ปีนี้เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยกลางมาแล้ว 13 ครั้ง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการทดสอบแต่ละครั้งนั้นเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีจรวดนำวิถีของเปียงยาง

กระแสการคาดเดาท่าทีของเกาหลีเหนือยิ่งมีมากขึ้น เมื่อสื่อของทางการกรุงเปียงยางเผยแพร่ภาพผู้นำคิม จอง อึน ขี่ม้าสีขาวขึ้นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในวันที่ 4 ธันวาคม ซึ่งปกติแล้วจะเป็นสัญญาณว่ากำลังจะมีการประกาศเหตุการณ์สำคัญหรือประกาศนโยบายครั้งใหญ่ของเกาหลีเหนือ

นับตั้งแต่ขึ้นปกครองเกาหลีเหนือเมื่อ 8 ปีก่อน ผู้นำคิมขี่ม้าขึ้นภูเขาแพกตูมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งแต่ละครั้งมักจะนำไปสู่การตัดสินใจสำคัญ ๆ เช่น การสั่งประหารอาเขยเมื่อปี ค.ศ. 2013 และการเริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เมื่อปี ค.ศ. 2017

การเผยภาพผู้นำคิมในครั้งนี้มีขึ้นก่อนการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือในเดือนนี้ และก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน เกาหลีเหนือเพิ่งส่งคำเตือนไปยังสหรัฐฯ เรื่องกำหนดเส้นตายสำหรับการเจรจาด้านนิวเคลียร์ของสองประเทศกำลังใกล้เข้ามาแล้ว