ไปรษณีย์สหรัฐฯ เตรียมพร้อมส่งของขวัญสำหรับเทศกาลวันหยุดในช่วงระบาดใหญ่

Holiday Shipping

Your browser doesn’t support HTML5

Pandemic Crush Shippers in Holidays



ปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลกติดขัดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ประกอบกับประสบการณ์อันไม่น่าจดจำจากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้เทศกาลส่งความสุขในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วเงียบเหงาลงไปมาก ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเริ่มเตรียมความพร้อมยิ่งกว่าเนิ่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่า การขนส่งของขวัญและการ์ดอวยพรทั้งหลายจะเกิดขึ้นโดยไม่สะดุดมากมายในปีนี้

ในช่วงเทศกาลวันหยุดเมื่อสิ้นปีที่แล้วนั้น คำว่า “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีสำหรับไปรษณีย์ของสหรัฐฯ” นั้น ห่างไกลจากสิ่งที่ควรและเคยเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคนงานมากมายที่เจ็บป่วยและต้องกักตัวเพราะการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้พัสดุจำนวนมหาศาลจากบรรดานักช้อปที่ไม่กล้าไปซื้อของตามร้านค้า และพัสดุจากบริษัทขนส่งเอกชนอีกมากมายที่มาส่งในนาทีสุดท้ายมากองรอการส่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

บรรดาพนักงานไปรษณีย์ หรือ U.S. Postal Service (USPS) ที่ยังจำได้ถึงตอนที่พัสดุและจดหมายกองพะเนินอยู่ในศูนย์กระจายพัสดุ ต่างมีการเตรียมพร้อมที่ดีขึ้นสำหรับสถานการณ์ในปีนี้ แต่การที่ปริมาณสินค้าคงคลังต่ำ และการหยุดชะงักของท่าเรือและห่วงโซ่อุปทานโลกก็ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการส่งของขวัญและพัสดุต่างๆ อยู่ดี

Holiday Shipping

ทั้งนี้ จำนวนพัสดุสำหรับเทศกาลวันหยุดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่ การไปรษณีย์สหรัฐฯ และบริษัทขนส่งเอกชนอย่าง UPS และ FedEx ต่างเพิ่มการจ้างงาน โดยการจ้างพนักงานชั่วคราวประมาณ 230,000 คน และดำเนินการตามขั้นตอนอื่นๆ เพื่อให้พนักงานสามารถรับมือกับจำนวนพัสดุที่มีมากมายได้

สาทิช จินเดล (Satish Jindel) จากบริษัท ShipMatrix ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลการขนส่งพัสดุ คาดว่า พัสดุเกือบ 3,400 ล้านชิ้นจะกระจายข้ามประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 400 ล้านชิ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเมื่อรวมการ์ดและจดหมายไปด้วยแล้วจะมีการส่งของมากกว่า 12,000 ล้านรายการ

มาร์ค ดิมอนก์สไตน์ (Mark Dimondstein) ประธานสหภาพแรงงานไปรษณีย์อเมริกัน ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานไปรษณีย์มากกว่า 200,000 คนกล่าวว่า โรคระบาดยังคงอยู่ และปัญหาเรื่องห่วงโซ่อุปทานจะส่งผลกระทบต่อการซื้อสินค้าของผู้คนตลอดจนการขนส่งสินค้าเหล่านั้นด้วย

ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะไม่ปลอดภัย แต่การไปรษณีย์สหรัฐฯ ตลอดจน UPS และ FedEx ได้เตรียมการรับมือกับปริมาณพัสดุที่มากมายได้ดีขึ้น และแนวโน้มหลายๆ ประการก็อาจเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาด้วย

อย่างไรก็ดี ดิมอนก์สไตน์ ให้ความเห็นว่า ในปีนี้ผู้คนซื้อของตามร้านค้ามากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และผู้คนที่สั่งซื้อออนไลน์กันก่อนหน้านี้เป็นเพราะพวกเขาตระหนักดีถึงปัญหาเรื่องห่วงโซ่อุปทาน ขณะเดียวกัน การที่ผู้คนเริ่มกลับไปทำงานที่ออฟฟิศกันมากขึ้น การส่งพัสดุที่เป็นอุปกรณ์สำนักงานไปตามบ้านก็ลดลงตามลงไปด้วย

ลูอิส ดีจอย (Louis DeJoy) ผู้ว่าการของการไปรษณีย์สหรัฐฯ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว แต่เพิ่งรายงานพัฒนาการที่ดีขึ้นในเรื่องของเวลาการส่งของตรงตามสัญญาและตัวเลขขาดทุนที่ลดลงเมื่อไม่นานมานี ประกาศว่า การไปรษณีย์สหรัฐฯ พร้อมปฏิบัติหน้าในภาวะวิกฤติการระบาดใหญ่แล้ว

ในปีที่ผ่านมา กว่าหนึ่งในสามของพัสดุที่ส่งแบบ first-class ไปถึงมือผู้รับล่าช้าในช่วงคริสต์มาส โดยของเล่นมากมายที่ปะปนอยู่กับจดหมายถูกปล่อยทิ้งไว้ด้านนอกของสถานคัดแยกไปรษณีย์บางแห่ง ขณะที่ พัสดุและจดหมายกองพะเนินเทินทึกอยู่ในศูนย์กระจายพัสดุ และการขนส่งล่าจากหลายจุดช้าเพิ่มขึ้นจากหลายวัน เป็นหลายสัปดาห์ ในหลายๆ กรณี

ทั้งนี้ ปัญหาสองอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ การต้องการคนงานและพื้นที่มากขึ้น ซึ่งทั้งสองปัญหากำลังถูกดำเนินการแก้ไขอยู่ในขณะนี้

ในการรับมือกับปัญหาดังกล่าว การไปรษณีย์สหรัฐฯได้เปลี่ยนพนักงานที่ไม่ใช่พนักงานประจำมากกว่า 30,000 คนให้เป็นพนักงานประจำก่อนที่จะถึงช่วงเทศกาลวันหยุด นอกจากนี้ยังจ้างพนักงานตามฤดูกาลอีก 40,000 คน และเช่าพื้นที่เพิ่มเติมในกว่า 100 สาขาเพื่อให้แน่ใจว่ามีพื้นพี่เพียงพอสำหรับพัสดุต่างๆ

Holiday Shipping

นอกจากนี้แล้ว การไปรษณีย์สหรัฐฯ ยังได้ติดตั้งเครื่องคัดแยกบรรจุภัณฑ์เครื่องใหม่มากกว่า 100 เครื่องตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ตลอดระยะเวลา 10 ปี และคาดว่า จะมีการติดตั้งระบบคัดแยกพัสดุมากกว่า 50 ระบบที่สามารถคัดแยกพัสดุขนาดใหญ่เพื่อจัดส่งให้ได้ก่อนเดือนธันวาคม ทั้งนี้ การไปรษณีย์สหรัฐฯจะสามารถเพิ่มการส่งพัสดุได้อีก 4.5 ล้านชิ้นต่อวันเลยทีเดียว

ในส่วนของ UPS มีการจ้างพนักงานตามฤดูกาลมากกว่า 100,000 คนทั่วประเทศและยังมีการเพิ่มการขนส่งทางอากาศและระบบอัตโนมัติต่อไป คาดว่าเกือบ 90% ของพัสดุต่างๆ จะถูกจัดส่งด้วยระบบอัตโนมัติภายในสิ้นปีนี้

ในขณะเดียวกัน FedEx ก็กำลังอยู่ในระหว่างการเพิ่มจำนวนพนักงานทั่วประเทศ 90,000 คน ซึ่งคาดว่าพนักงานใหม่เหล่านี้จะยังคงทำงานอยู่หลังวันหยุดยาวด้วยเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีจำนวนคนงานเพิ่มมากขึ้น แต่บรรดาผู้จัดส่งพัสดุต่างเห็นพ้องว่าปีนี้ไม่ใช่ปีที่นักช้อปทั้งหลายจะรอสั่งของกันในนาทีสุดท้าย และเตือนให้ทุกคนตัดสินใจซื้อของขวัญให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย