การตรวจวัดอุณหภูมิรอบใหม่ในสหรัฐฯ พบว่ามีอุณหภูมิสูงเป็นสถิติใหม่มากกว่าอุณหภูมิต่ำที่เป็นสถิติใหม่อยู่สองครั้งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
Associated Press วิเคราะห์ข้อมูลอุณหภูมิที่รวบรวมโดยสถานีตรวจวัดอากาศ 424 แห่งทั่วประเทศ โดยรวบรวมข้อมูลอุณหภูมิตั้งแต่ปีค.ศ. 1920 ถึง 2008 และพบว่าในช่วงศตวรรษที่ 20 มีอัตราส่วนของสถิติความร้อนและเย็นที่ใกล้เคียงกัน
แต่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 สถานีตรวจวัดอากาศ 87% รายงานสถิติความร้อนมากกว่าความหนาว และ 42 สถานีรายงานว่าสถิติความร้อนอย่างน้อย 5 สถิติต่อ 1 สถิติความหนาว และอีก 11 สถานีอัตราส่วนความร้อนต่อความหนาวในช่วงเวลานั้นคือ 10 ต่อ 1 หรือมากกว่านั้น
จากการวิเคราะห์ข้อมูลอุณหภูมิยังพบว่า สถานที่ที่มีสถิติความแตกต่างระหว่างความร้อนและความหนาวมากที่สุดคือที่เมือง Pasadena ที่อยู่ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีรายงานสถิติอุณหภูมิต่ำสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ในช่วงระหว่างวันที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดทั้งสองครั้งนั้น Pasadena มีรายงานสถิติร้อนที่สุดถึง 145 ครั้ง รวมถึงวันที่อากาศร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ของเมือง ซึ่งมีอุณหภูมิอยู่ที่ 45 องศาเซลเซียสเมื่อปีที่แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า ผลของการตรวจวัดอากาศของ AP ช่วยสนับสนุนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ครั้งก่อนหน้านี้ และข้อมูลดังกล่าวแสดงหลักฐานเพิ่มเติมว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
Deke Arndt นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายการสังเกตการณ์สภาพอากาศสำหรับการบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NOAA) กล่าวว่า การใช้ข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญมากในการระบุผลกระทบระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
Arndt ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงสองเดือนแรกของปีค.ศ. 2019 มีสถิติอากาศเย็นมากกว่าสถิติอากาศร้อนซึ่งตรงกันข้ามกับผลการวิเคราะห์ของ AP
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าความแตกต่างระยะสั้นนั้นไม่ได้มีความหมายมากเท่ากับแนวโน้มสภาพภูมิอากาศที่แท้จริงซึ่งตรวจวัดมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว และว่าผลการวิเคราะห์ของ AP แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาอยู่ในช่วงที่มีภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เขาคาดว่าแนวโน้มนี้คาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
นอกจากนี้อุณหภูมิที่สุดขั้วนั้นอาจมีผลกระทบที่แตกต่างกันมากมายต่อชีวิตของผู้คน รวมถึงผลกระทบทางด้านการเงิน เช่นมีการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น มีการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ตลอดจนการสูญเสียผลผลิตในฟาร์ม
การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ใน 22 รัฐของสหรัฐฯ พบว่าฤดูร้อนในแต่ละปีมีผู้ป่วยประมาณ 36,000 คนไปเข้าการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด