Your browser doesn’t support HTML5
ผู้จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในยุครัฐบาลของโจ ไบเดน ผู้ที่ถูกคาดหมายว่าจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมเจอโจทย์ใหญ่ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย การว่างงาน ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งแตกต่างจากขุนคลังในยุคก่อนๆ ที่เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจโลก กอบกู้ระบบการเงินอเมริกัน และรับมือกับสงครามการค้าโลก
รายงานของรอยเตอร์ เผยรายชื่อผู้ที่อยู่ในข่ายการพิจารณาได้เป็นรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ คนใหม่หลายราย ซึ่งล้วนมีประสบการณ์ด้านการเงินการคลังและได้รับการยอมรับในวงกว้าง อาทิ นางเจเน็ต เยลเลน (Janet Yellen) อดีตประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ในยุคของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา
เลอัล ไบรนาร์ด (Lael Brainard) ซึ่งขณะนี้เป็นหนึ่งในกรรมการระดับนโยบายของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ และเคยดำรงตำแหน่งรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ ในยุครัฐบาลอดีตปธน.บารัค โอบามา ซึ่งเผชิญกับวิกฤตยูโรโซนและวิกฤตการเงินโลกพร้อมกันในยุคนั้นมาก่อน
อีกคนคือ ซาราห์ บลูม แรสคิน (Sarah Bloom Raskin) อดีตคณะกรรมการระดับนโยบายของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ เช่นกัน และเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่เป็นสตรีคนแรกและคนเดียวที่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญนี้ในกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ
และราฟาเอล บอสติก (Raphael Bostic) ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นคนผิวสีคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ และยังเคยเป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเคหะและพัฒนาเขตเมือง ในยุครัฐบาลโอบามาสมัยแรกด้วย
ทั้งนี้ ความท้าทายของรัฐมนตรีคลังคนใหม่ ในการแก้ปัญหาภายในประเทศ มีตั้งแต่การตัดสินใจว่าจะคงการขาดดุลงบประมาณประเทศต่อไปหรือไม่ การตัดสินใจเรื่องการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจและครัวเรือนจากผลกระทบของโควิด-19 รวมทั้งการพิจารณาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ในอนาคต
นอกจากนี้ขุนคลังสหรัฐฯ ยังต้องพิจารณาประเด็นระดับโลก ทั้งการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการปัญหาการเลี่ยงภาษีของธุรกิจขนาดใหญ่ และประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยเฉพาะสงครามการค้ากับจีน