กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศในวันพฤหัสบดี เพิ่มเวลาการใช้มาตรการห้ามพลเมืองอเมริกันเดินทางไปยังเกาหลีเหนือเพิ่มไปอีกหนึ่งปี โดยให้เหตุผลว่ายังอันตรายเกินไปที่จะเดินทางไปยังเกาหลีเหนือ
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า "ความมั่นคงปลอดภัยของพลเมืองสหรัฐฯ ในต่างประเทศ คือหนึ่งในภารกิจที่สำคัญที่สุดของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และคำสั่งห้ามชาวอเมริกันไปยังเกาหลีเหนือจะยังคงมีอยู่ต่อไป"
การขยายเวลามาตรการดังกล่าวไปอีกหนึ่งปี โดยจะไปสิ้นสุดในวันที่ 31 สิงหาคมปีหน้า มีขึ้นขณะที่ความพยายามของรัฐบาลกรุงวอชิงตันในการเจรจาเพื่อให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ กำลังเผชิญอุปสรรค
เมื่อเดือนมิถุนายน หลังจากการปประชุมสุดยอดกับผู้นำคิม จอง อึน ที่สิงคโปร์ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศว่า "เกาหลีเหนือไม่ใช่ภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์อีกต่อไป" เนื่องจากเชื่อว่าผู้นำคิมได้ตกลงอย่างมั่นเหมาะว่าจะยุติโครงการนิวเคลียร์
แต่ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ดูเหมือนประธานาธิบดีจะเกิดความไม่พอใจต่อความล่าช้าของเกาหลีเหนือ และได้สั่งยกเลิกแผนการเยือนเกาหลีเหนือของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ไปแล้วด้วย
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ รัฐมนตรีต่างประเทศสามารถจำกัดการเดินทางของพลเมืองอเมริกันไปยังประเทศใดประเทศหนึ่ง ด้วยเหตุผล 3 ประการ คือ หนึ่ง หากประเทศนั้นกำลังมีสงครามกับสหรัฐฯ, สอง หากประเทศนั้นมีการต่อสู้รบพุ่งกันอยู่ และ สาม หากประเทศนั้นมีความเสี่ยงด้านสาธารณสุข หรือความปลอดภัยต่อชีวิตของพลเมืองอเมริกันที่จะเดินทางไปที่นั่น
ซึ่งในกรณีของเกาหลีเหนือนั้น รมต.พอมเพโอ ระบุว่าจัดอยู่ในกรณีที่สาม