Your browser doesn’t support HTML5
เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขยายตัวมากกว่าที่คาดในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ในอัตรา 2.3% แต่ภาพรวมในช่วงต่อจากนี้ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เนื่องจากการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานในวันพุธว่า จีดีพีของประเทศขยายตัวในระดับที่สูงกว่าคาดไว้ก่อนหน้าที่ 2.1% โดยมีปัจจัยหลักๆ มาจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าที่ประเมินไว้ รวมทั้งการที่ภาคธุรกิจเริ่มเดินหน้าประกอบกิจการของตนและสั่งสินค้าเข้ามาเติมคลังมากกว่าที่คาดด้วย
ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาสล่าสุดนี้ เป็นไปในทิศทางใกล้เคียงกับสถานการณ์เมื่อต้นปี ที่สหรัฐฯ เริ่มกลับมาดำเนินการต่างๆ มากขึ้นกว่าเมื่อภาวะระบาดของโควิด-19 รุนแรงในปีที่แล้ว ส่งผลให้จีดีพีในไตรมาสแรกของปีนี้สูงถึง 6.3% ตามมาด้วยอัตรา 6.7% ในไตรมาสที่ 2 ก่อนที่ การระบาดของเชื้อไวรัสเดลตาในช่วงฤดูร้อนจะกดดันให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 3
และการปรากฏตัวของเชื้อไวรัสโอมิครอน ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศกำลังพุ่งสูง และปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานยังค้างคาอยู่ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงต่อจากนี้ไปจนถึงปีหน้าจะหดตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นอกจากนั้น นักเศรษฐศาสตร์ให้ความเห็นว่า ยังเร็วเกินไปที่จะมีการสรุปความว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้จะมีผลต่อเศรษฐกิจได้มากเพียงใด พร้อมประเมินว่าจีดีพีของสหรัฐฯ ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ราว 5.5% ซึ่งถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984 มาและเป็นการปรับตัวดีขึ้นกว่าการหดตัว 3.4% ในปีที่แล้วมาก
ขณะเดียวกัน Goldman Sachs ปรับลดการคาดการณ์จีดีพีสหรัฐฯในไตรมาสแรกของปี 2022 จาก 3% เป็น 2% รวมทั้งของไตรมาสที่ 2 จาก 3.5% เป็น 3% และของไตรมาสที่ 3 จาก 3% เป็น 2.75% ด้วย