Your browser doesn’t support HTML5
สหรัฐฯ จะห้ามร้านสะดวกซื้อเเละปั้มน้ำมันขายบุหรี่ไฟฟ้ารสลูกอมและรสผลไม้ เพื่อแก้ปัญหาการสูบบุหรี่ของวัยรุ่น
เจ้าหน้าที่ขององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า คำสั่งห้ามนี้จะมีผลให้ร้านสะดวกซื้อและปั้มน้ำมันขายได้เฉพาะบุหรี่ธรรมดา บุหรี่รสมิ้นท์เเละบุหรี่รสเมนทอลเท่านั้น ซึ่งข้อห้ามนี้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อบริษัท Juul Labs ผู้นำในตลาดบุหรี่ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก
นอกจากนี้ องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ จะควบคุมเข้มงวดการสั่งซื้อบุหรี่ผ่านทางออนไลน์อีกด้วย โดยผู้ซื้อต้องระบุระดับอายุก่อนสั่งซื้อ
องค์การอาหารและยาทางการสหรัฐฯ ชี้ว่า วัยรุ่นอเมริกันสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 75 ตั้งเเต่ปีที่แล้ว เเละทางเอฟดีเอได้ระบุว่าปัญหานี้เกิดขึ้นในระดับที่ถือได้ว่าเเพร่ระบาด
สก็อต ก็อทลีบ (Scott Gottlieb) ผู้อำนวยการของเอฟดีเอแห่งสหรัฐฯ กล่าวในเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือ E-cigarettes กำลังเเพร่ระบาดอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นอเมริกันเเละน่าเป็นห่วงมาก
เขากล่าวว่า ปัญหาการใช้บุหรี่ในกลุ่มวัยรุ่นนี้เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ เเละจะนำไปสู่การเสพติดบุหรี่ตามมา ซึ่งจะละเลยไม่ได้และต้องได้รับการแก้ไข
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเเห่งสหรัฐฯ รายงานว่าความนิยมสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไอน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่ยอดขายอุปกรณ์บุหรี่ไอน้ำของบริษัท Juul ขยายตัวจาก 2 ล้าน 2 แสนชิ้นในปี ค.ศ. 2016 เป็น 16 ล้าน 2 แสนชิ้นเมื่อปีที่แล้ว
เอฟดีเอแห่งสหรัฐฯ ขู่ในเดือนกันยายนว่า จะสั่งห้ามบริษัท Juul เเละผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ายอดนิยมอีกสี่ยี่ห้อ หากบริษัทผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าเหล่านี้ไม่มีมาตรการป้องกันวัยรุ่นจากการใช้ผลิตภัณฑ์
ทางเอฟดีเอให้เวลาบริษัทเหล่านี้ทั้งหมด 60 วันให้เสนอมาตรการป้องกันวัยรุ่นไม่ให้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า และขณะนี้เวลา 60 วันได้สิ้นสุดลงเเล้ว
แผนสั่งห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่งรสลูกอมแลเผลไม้ในร้านสะดวกซื้อจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัท Juul ซึ่งขายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีทั้งรสมะม่วง รสมิ้นท์ รสผลไม้เเละครีม
บริษัท Juul เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ทางบริษัทต้องการมีส่วนในการป้องกันไม่ให้บุหรี่ e-cigarettes ตกไปอยู่ในมือของวัยรุ่น เเต่กล่าวว่าบุหรี่ไอระเหยแต่งรสมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นักสูบวัยผู้ใหญ่ เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้
เมเรอดิธ เบอร์กมัน (Meredith Berkman) ผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้ปกครองที่ต่อต้านการสูบบุหรี่ไฟฟ้าไอระเหย (Parents Against Vaping E-cigarettes) ที่พยายามควบคุมการสูบบุหรี่ในเด็กวัยรุ่น กล่าวว่า มาตรการของเอฟดีเอเป็นก้าวเเรกที่ดี เเต่ทางองค์การน่าจะออกมาตราการนี้มานานเเล้ว
เธอกล่าวว่า ควรห้ามขายบุหรี่ไอระเหยเเต่งรสทั้งหมดและห้ามขายทางออนไลน์อย่างเด็ดขาด
E-cigarettes เป็นประเด็นที่สร้างความคิดเห็นที่แตกแยกในวงการสาธารณสุข บางคนมองมองว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้ผู้สูบบุหรี่เลือกสูบผลิตภัณฑ์ยาสูบที่มีอันตรายน้อยลง ในขณะที่หลายคนกลัวว่า E-cigarettes จะดึงดูดให้คนรุ่นใหม่นิยมสูบบุหรี่เเละเกิดการเสพติดบุหรี่ตามมา
เมื่อปีที่แล้ว เอฟดีเอแห่งสหรัฐฯ ได้ขยายกำหนดเส้นตายไปจนถึงปี 2022 หรืออีก 4 ปี แก่บริษัทผลิต e-cigarette ในการปฏิบัติตามกฏระเบียบใหม่ของรัฐบาลกลางด้านนโยบายการตลาดและสาธารณสุข
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)