ผู้ว่าการมลรัฐต่าง ๆ ทั่วสหรัฐฯ ประกาศมาตรการชุดใหม่เพื่อควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัส หลังจากที่มีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 11 ล้านคน และยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยมากกว่า 150,000 รายต่อวัน
ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน เกรทเชน วิทเมอร์ ประกาศมาตรการห้ามรับประทานอาหารในร้าน ยกเลิกวิชาเรียนในห้องเรียนสำหรับนักเรียนและนักศึกษา รวมทั้งห้ามจัดงานชุมนุมต่าง ๆ และจำกัดการรวมตัวตามบ้านไม่เกิน 10 คน
ที่รัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นรัฐแรกที่พบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ว่าการรัฐ เจย์ อินซลี สั่งห้ามรับประทานอาหารในร้านและจำกัดลูกค้าตามร้านค้าปลีกต่าง ๆ ไม่เกิน 25% ของความจุ รวมทั้งจำกัดการรวมตัวกลางแจ้งของผู้คนไม่เกิน 5 คน และห้ามการชุมนุมของสมาชิกต่างครอบครัว
ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละประมาณ 150,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วจนถึงขณะนี้มากกว่า 246,000 คน
ขณะเดียวกัน คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขที่ได้รับเลือกจากว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ให้ทำหน้าที่ช่วยรับมือการระบาดของโควิด-19 กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน และทำให้กระบวนการส่งมอบอำนาจให้แก่นายไบเดนยังไม่สามารถเดินหน้าได้นั้น ส่งผลให้พวกตนยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญหลายอย่างที่จำเป็นสำหรับการต่อสู้กับโคโรนาไวรัสได้
นายแพทย์อาทุล กาวานเด หนึ่งในคณะที่ปรึกษาของนายไบเดน กล่าวกับสถานีข่าว ABC ว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คณะผู้ทำงานส่งมอบอำนาจประธานาธิบดีต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลประเมินภัยคุกคามต่าง ๆ รวมทั้งเข้าใจถึงแผนการแจกจ่ายวัคซีน รวมทั้งจำนวนอุปกรณ์ทางการแพทย์สำรองที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างเร่งด่วน
ด้านนายแพทย์แอนโธนี เฟาชี่ หนึ่งในคณะทำงานเพื่อรับมือการระบาดของโคโรนาไวรัสภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่าหากคณะของตนสามารถเริ่มทำงานกับคณะทำงานของนายไบเดนได้ทันที