บริษัท มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (Moody’s Investors Service) ประกาศปรับลดความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารสหรัฐฯ จาก “มีเสถียรภาพ” เป็น “เชิงลบ” ในวันอังคาร จากกรณีที่ผู้ฝากเงินในสหรัฐฯ แห่ถอนเงินออกจากธนาคารซิลิคอนแวลลีย์ (SVB) ธนาคารซิลเวอร์เกท แคปปิตอล และธนาคารซิกเนเจอร์ จนทำให้เกิดความกลัวว่า ระบบธนาคารของประเทศอาจกำลังมีปัญหาหนักอยู่ และทำให้เกิดวิกฤตความเชื่อมั่นจากทั้งนักลงทุนและผู้ฝากเงินด้วย
อย่างไรก็ดี มูดีส์ คาดว่า ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) น่าจะเดินหน้านโยบายการเงินแบบเข้มงวดด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในสัปดาห์หน้า ขณะที่ นักวิเคราะห์บางรายประเมินว่า FED อาจจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว
ขณะเดียวกัน ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อ่อนตัวลงในเดือนกุมภาพันธ์ ตามรายงานกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่ออกมาในวันอังคาร
ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ปรับขึ้น 6% ในเดือนที่แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบกับการปรับขึ้น 6.4% ในเดือนมกราคา ขณะที่ ตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นถึงอัตราปรับขึ้นที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2021 เป็นต้นมาด้วย
SEE ALSO: เฟดชั่งใจขึ้นดอกเบี้ยรอบใหม่ หลังเหตุธนาคารซิลิคอนแวลลีย์ล้ม
แต่ข่าวนี้ก็ยังไม่ทำให้ข้อสงสัยว่า FED จะตัดสินใจทำอย่างไรกับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการประชุมที่จะมีขึ้น
นักวิเคราะห์เคยคาดไว้ว่า อัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงน่าจะทำให้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยต่อไปอย่างน้อยอีก 0.25% ในครั้งหน้า ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงปรับมาอยู่ที่ 4.5%-4.75%
แต่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนี้กลายมาเป็นปัจจัยลบที่ทำให้เกิดการล้มครืนของธนาคารอย่างน้อย 2 แห่งในช่วงไม่ถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา และสถานการณ์ดังกล่าวก็น่าจะมีผลต่อทิศทางการตัดสินใจของ FED ได้
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์