นักวิจัยอเมริกันซึ่งศึกษาข้อมูลจากดาวเทียมกล่าวว่า จีนอาจกำลังเพิ่มจำนวนฐานยิงขีปนาวุธที่สามารถยิงข้ามทวีปได้ และข่าวนี้ทำให้เกิดความกังวลว่าอาวุธนิวเคลียร์อาจกลายเป็นประเด็นร้อนใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน
นักวิจัยชาวอเมริกัน พบว่าจีนกำลังสร้างฐานไซโลทั้งหมด 119 จุดในทะเลทรายเเห่งหนึ่งที่จังหวัดกานสูทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน โดยผู้เชี่ยวชาญทั้งสองคนใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมของบริษัท Planet
เจฟฟรีย์ ลิวิส หนึ่งในสองนักวิจัย บอกกับวีโอเอว่าสิ่งปลูกสร้างที่เกิดขึ้นอาจใช้สำหรับขีปนาวุธประเภท DF-41 ของจีน ซึ่งสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ และสามารถยิงได้ไกลเกือบ 7,000 กิโลเมตร
นั่นหมายความว่าอาจยิงจากจีนมาถึงสหรัฐฯได้ นอกจากนี้ยุทโธปกรณ์ดังกล่าวน่าจะมีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ได้สูงสุดถึง 10 หัวรบ
นายลิวิส ซึ่งสังกัดศูนย์ James Martin Center for Nonproliferation Studies แห่ง Middlebury Institute of International Studies ที่เมืองมอนเทอเร รัฐเเคลิฟอร์เนียกล่าวว่า การขยายแสนยานุภาพของจีนครั้งนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของเเผนนิวเคลียร์เพื่อป้องปรามสหรัฐฯ ด้วยศักยภาพที่ว่าจีนจะสามารถตั้งหลักโจมตีอเมริกากลับอย่างรุนเเรง หากอเมริกาโจมตีจีนก่อน
เมื่อทราบถึงข้อมูลดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวแสดงความกังวลในสัปดาห์นี้
โฆษกของกระทรวงนีด ไพรซ์ กล่าววันพฤหัสบดีว่า "รายงานดังกล่าวเเละข้อมูลเรื่องการพัฒนาอื่นๆของจีนชี้ว่าอาวุธนิวเคลียร์ของจีนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่คาด และอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่เคยคิดไว้ด้วย"
เขากล่าวว่าเหตุการณ์นี้สร้างความกังวลเเละตั้งคำถามถึงเจตนารมณ์ของจีน และยังเรียกร้องให้จีนดำเนินการร่วมกับสหรัฐฯในการลดความเสี่ยงจากการเเข่งขันทางอาวุธที่อาจสั่นคลอนความมั่นคง
สถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันมิได้ติดต่อกลับนักข่าววีโอเอ เมื่อนักข่าวถามถึงคิดเห็นในเรื่องนี้
เมื่อปีที่เเล้วกระทรวงต่างประเทศอเมริกันคาดว่าจีนมีขีปนาวุธที่ยิงได้ข้ามทวีปหรือ ICBM จำนวน ประมาณ 100 ลูก และน่าจะเพิ่มจำนวนเป็นสองเท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม หากดูจำนวนหัวรบนิวเคลียร์จีนน่าจะยังมีอาวุธดังกล่าวน้อยกว่าอเมริกามาก
กระทรวงกลาโหมอเมริกันประเมินว่าจีนน่าจะมีหัวรบนิวเคลียร์ในระดับ 200 ต้นๆ
ขณะที่เจมส์ เอคตัน ผู้อำนวยการร่วมแห่งหน่วยงาน Nuclear Policy Program ภายใต้สถาบัน Carnegie Endowment for International Peace ลงบทความใน The Washington Post ที่ระบุว่าสหรัฐฯ มีหัวรบนิวเคลียร์ 3,800 หัวรบ และในจำนวนดังกล่าว 1,750 หัวรบอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
ส่วนทิโมธี ฮีธ นักวิจัยอาวุโสด้านกลาโหมและการต่างประเทศแห่ง RAND Corporation บอกกับวีโอเอผ่านอีเมลว่า การก่อสร้างล่าสุดของจีนเเสดงให้เห็นว่าจีนกำลังเสริมเเสนยานุภาพทางอาวุธนิวเคลียร์
เขากล่าวด้วยว่าจีนกำลังเพิ่มความเสี่ยงว่าอาจเกิดความเสียหายที่มากขึ้น ในความขัดเเย้งใดๆในอนาคต