Your browser doesn’t support HTML5
ผู้นำจีนและสหรัฐตกลงกันได้ที่จะร่วมวางแผนลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 28% ภายในปีค.ศ. 2025 หรืออีก 11 ปีจากนี้ หากทำสำเร็จปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยโดยสหรัฐจะมาอยู่ที่ระดับเดียวกับเมื่อ 9 ปีก่อน
ด้านจีนยอมเป็นครั้งแรกที่กำหนดว่าหลังจากปี ค.ศ. 2030 จีนจะไม่เพิ่มปริมาณการปล่อยก๊าซดังกล่าวที่มีผลต่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ และความตกลงกันในเรื่องนี้น่าจะสร้างแรงผลักดันให้เกิดความคืบหน้าในอนาคตที่การประชุมในหัวข้อนี้ที่สหประชาชาติเป็นผู้จัดที่กรุงปารีสปีหน้า
ประธานาธิบดีโอบามาและประธานาธิบดีสี จิ้น ผิงของจีนเห็นพ้องต้องกันครั้งนี้ หลังจากการเจรจาที่เวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศในเอเซียแปซิฟิคหรือ APEC ที่กรุงปักกิ่ง ถือเป็นการขยายความร่วมมือที่หลากหลายกว่าที่หลายคนคาดไว้
แม้สหรัฐและจีนจะเจรจากันได้ผลดีในเรื่อง สิ่งแวดล้อม วีซ่าเข้าเมือง และภาษีสินค้าไฮเทค แต่ที่ยังไม่ลงรอยกันคือเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยที่ผู้นำจีนกล่าวว่าตนได้บอกประธานาธิบดีโอบามาว่า การชุมนุมที่ฮ่องกงที่ใช้ชื่อการเคลื่อนไหวว่า Occupy Central เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
นอกจากนั้นประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่นักข่าวต่างประเทศไม่ได้วีซ่าสำหรับการทำงานในจีนนั้นเป็นปัญหาของนักข่าวเหล่านั้นอง ไม่นานนี้มีการทำสำรวจความคิดเห็นนักข่าวต่างประเทศในจีน 240 คน ปรากฏว่า 80% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า สถานการณ์เรื่องเสรีภาพสื่อในจีนย่ำแย่ลง
โปรดติดตามรายละเอียดจากคลิปเรื่องนี้ในรายการข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ
รายงานโดย Bill Ide/เรียบเรียงโดย Rattaphol Onsanit
Your browser doesn’t support HTML5