เรือบรรทุกเครื่องบินและกองเรือจู่โจมของสหรัฐฯ เริ่มการซ้อมรบกับเรือรบเกาหลีใต้ บริเวณนอกชายฝั่งทางตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลีในวันจันทร์ ถือเป็นการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันครั้งแรกในรอบ 5 ปี หนึ่งวันหลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยใกล้รอบใหม่
คาดว่าเกาหลีเหนืออาจทดสอบยิงขีปนาวุธอีกในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อตอบโต้ต่อการซ้อมรบครั้งล่าสุดของสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ซึ่งทางรัฐบาลกรุงเปียงยางมองว่าเป็นการยั่วยุ
กองทัพเรือเกาหลีใต้มีแถลงการณ์ว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะใช้เวลา 4 วัน โดยมุ่งเน้นแสดงแสนยานุภาพของกองกำลังพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ในการตอบโต้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพในปฏิบัติการทางทะเลร่วมกันของสองประเทศ
รายงานบอกว่า มีเรือรบของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้มากกว่า 20 ลำ รวมทั้งเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน (USS Ronald Reagan) รวมทั้งเรือจู่โจมเรือพิฆาต ตลอดจนเครื่องบินไอพ่นและเฮลิคอปเตอร์ ของสองประเทศด้วย
ครั้งสุดท้ายที่สหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้ คือเมื่อปีค.ศ. 2017 ที่มีเรือบรรทุกเครื่องบินสามลำของสหรัฐฯ ซ้อมรบทางทะเลกับเกาหลีใต้เพื่อตอบโต้ต่อการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของกรุงเปียงยาง
ตั้งแต่นั้นการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ได้ถูกลดขนาดลงเพื่อเปิดทางให้มีการเจรจาของผู้แทนสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ รวมทั้งการระบาดของโควิด-19
เมื่อวันอาทิตย์ เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยใกล้ซึ่งลอยไปตกไกลราว 600 กม.ในฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ บนความสูง 60 กม.
กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธหนึ่งลูกจากบริเวณแทชอนในจังหวัดพยองกัน ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธลูกที่ 32 ของเกาหลีเหนือในปีนี้ มากที่สุดเป็นสถิติใหม่ในรอบหนึ่งปี ซึ่งมีทั้งขีปนาวุธแบบพิสัยใกล้และแบบข้ามทวีป
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เปิดเผยด้วยว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 7 ซึ่งอาจสร้างความตึงเครียดยิ่งขึ้นในภูมิภาคนี้
- ที่มา: เอพี