เมื่อวันพุธ สหรัฐฯ กล่าวหาว่า กัมพูชาไม่โปร่งใสต่อกรณีที่จีนดำเนินการก่อสร้างในบริเวณฐานทัพเรือเรียม เมืองสีหนุวิลล์ และเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาเปิดเผยว่าจีนมีส่วนร่วมต่อกิจการทหารของกัมพูชาอย่างไรบ้าง ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ศูนย์ Center for Strategic and International Studies เผยแพร่ภาพที่ทางศูนย์ระบุว่า เป็นภาพถ่ายจากดาวเทียมของพื้นที่ก่อสร้างอาคารใหม่สามแห่งและถนนใหม่หนึ่งแห่งในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน
นายชาด โรดีไมเออร์ โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงพนมเปญ ระบุในแถลงการณ์ว่า กิจการทางทหารของต่างชาติในพื้นที่ฐานทัพเรือเรียมถือเป็นการผิดต่อรัฐธรรมนูญกัมพูชา และส่งผลเสียต่อความมั่นคงในภูมิภาค
โฆษกผู้นี้ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่โปร่งใสต่อวัตถุประสงค์ ลักษณะ และขอบเขตของโครงการดังกล่าว รวมถึงบทบาทของกองทัพจีนซึ่งทำให้เกิดความกังวลต่อการใช้ประโยชน์จากฐานทัพเรือนี้ และชาวกัมพูชาควรได้รับทราบข้อมูลรวมถึงมีส่วนร่วมต่อโครงการนี้ซึ่งเป็นข้อตกลงทางการทหารและมีผลระยะยาวต่อประเทศ
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ ถดถอยลงหลังสหรัฐฯ กล่าวหาว่า พรรครัฐบาลกัมพูชาปราบปรามผู้เห็นต่าง และแสดงความกังวลต่ออิทธิพลของจีนที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อปีที่แล้ว กัมพูชาระบุว่า ได้รื้อถอนอาคารที่สหรัฐฯ ให้ทุนสร้างในฐานทัพเรือเรียม เพื่อเปิดทางให้มีการก่อสร้างขยายเพิ่มเติม ในขณะที่ทางสหรัฐฯ ระบุว่า ก่อนหน้านั้นหนึ่งปี กัมพูชาก็ปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ ในการซ่อมแซมฐานทัพเรือดังกล่าว
ทางด้านกัมพูชาปฏิเสธรายงานว่า กำลังดำเนินการอนุญาตให้จีนนำกองกำลังมาประจำการที่ฐานทัพนี้
ทั้งนี้ หากจีนดำเนินการดังกล่าวได้สำเร็จจะถือว่าเป็นความคืบหน้าที่สำคัญ หลังจากที่สหรัฐฯ เคยมีฐานทัพทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว และยังคงมีการร่วมซ้อมรบกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค เช่น ไทย ฟิลิปปินส์
พาย สีพัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ระบุว่า การก่อสร้างของจีนในฐานทัพเรือเรียมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือด้านการพัฒนา โดยท่าเรือจะเปิดให้ทุกฝ่ายใช้งานได้หลังการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมระบุว่า จีนไม่ได้สร้างอาคารเพื่อประโยชน์ทางการทหาร
(ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์)