ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารให้ดำเนินการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อหวังเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในประเทศ
ปธน.ไบเดน บอกกับผู้สื่อข่าวก่อนจะลงนามคำสั่งดังกล่าวที่ทำเนียบขาวในวันศุกร์ว่า มาตรการล่าสุดนี้ “เป็นสิ่งยืนยันว่ารัฐบาลกลางจะทำงานเชิงรุกอย่างสุดความสามารถในการดำเนินตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาด”
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจหลักๆ หลายรายในสหรัฐฯ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์มาตรการนี้ ว่าเป็นแนวทางแทรกแซงภาคเอกชนของรัฐบาลแบบเข้มงวดดุดัน
ภายใต้คำสั่งนี้ หน่วยงานรัฐบาลกลางนับสิบแห่งจะต้องดำเนินงานโครงการจำนวน 72 โครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อลดการดำเนินธุรกิจที่ต่อต้านการแข่งขันในหลายส่วนของภาคเศรษฐกิจของประเทศ
ปธน.ไบเดน กล่าวว่า ขณะที่ตนเองเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดทุนนิยม ตนเชื่อว่า ลัทธิทุนนิยมที่ปราศจากการแข่งขันนั้น ไม่ใช่ลัทธิทุนนิยมอันแท้จริง แต่เป็นการหาประโยชน์เข้าตัวเองโดยไม่ถูกต้อง
เอกสารจากทำเนียบขาวเกี่ยวกับนโยบายนี้ ชี้ว่า คำสั่งฝ่ายบริหารล่าสุดนี้ “จะช่วยลดภาระด้านราคาสินค้าสำหรับครอบครัวในสหรัฐฯ เพิ่มค่าจ้างสำหรับคนงาน และส่งเสริมนวัตกรรม รวมทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้เดินหน้ารวดเร็วขึ้น” พร้อมๆ กับการชดเลยช่วงเวลาทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งบรรดาบริษัทหลายแห่งเร่งควบรวมกิจการกันอย่างมากมาย
ขณะที่ หอการค้าสหรัฐฯ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งนี้ว่าเป็น “การที่รัฐบาลดำเนินแนวทางอวดรู้ทุกอย่าง” มาจัดการกับเศรษฐกิจ กลุ่มสหภาพแรงงาน United Food and Commercial Workers ซึ่งเป็นตัวแทนแรงงานในอุตสาหกรรมอาหารและสาธารณสุข แสดงความชื่นชมต่อแนวทางใหม่นี้ของรัฐบาลปธน.ไบเดน