นักวิเคราะห์วิจารณ์บทบาทใหม่ทางทหารของสหรัฐฯ ในเอเซีย โดยบางคนเชื่อว่าเป็นการควบคุมอิทธิพลของจีน และส่วนหนึ่งชี้ว่าจะมีความคล่องตัว กระทัดรัด และเป็นที่ยอมรับทางการเมืองของประเทศพันธมิตรมากขึ้น
คำประกาศของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่าสหรัฐฯ จะปรับการวางกำลังทหาร โดยจะย้ายกำลังทางเรือราว 60 % มาอยู่ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคภายในปี 2563 ทำให้นักวิเคราะห์มองเรื่องนี้ต่างกัน โดยนาย Wu Shicun ผู้อำนวยการของ National Institute for South China Studies เชื่อว่า การที่สหรัฐหันความสนใจมายังเอเซียเป็นความพยายามที่จำกัดควบคุมบทบาทอิทธิพลของจีน ในขณะที่บางคนเช่นนาย Abraham Denmark นักวิเคราะห์ความมั่นคงระดับภูมิภาคของ National Burea of Asian Research มองว่าสหรัฐฯ เห็นว่าตนเป็นประเทศมหาอำนาจรายหนึ่งในย่านแปซิฟิค และประวัติศาสตร์ของโลกยุคศตวรรษที่ 21 จะเกี่ยวกับเหตุการณ์ในภูมิภาคนี้ สหรัฐฯ จึงต้องการรักษาโอกาสการเข้าถึงและอิทธิพลในภูมิภาคนี้ไว้ และบทบาททางทหารของสหรัฐฯ ในปัจจุบันจะไม่เหมือนสมัยสงครามเย็นหรือสงครามเวียดนาม คือจะมีความคล่องตัว กระทัดรัด และเป็นที่ยอมรับทางการเมืองของประเทศพันธมิตรมากขึ้น ส่วนอาจารย์ Catharin Dalpino ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเซียตะวันออกแห่ง School of Advanced International Studies ที่มหาวิทยาลัย Johns Hopkins ชี้ว่าการที่สหรัฐฯ หันมาสนใจเอเซียนั้นเป็นการมองหาสิ่งที่เป็นผลประโยชน์และความต้องการร่วมกัน ซึ่งจะทำให้มีความร่วมมืออย่างเป็นพันธมิตรต่อไปในอนาคตได้
แต่จีนได้เรียกนโยบายการหันมาสนใจเอเซียและการเพิ่มความร่วมมือทางของสหรัฐฯ ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะกับเวลา และจีนได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ เคารพในผลประโยชน์ของประเทศต่างๆ ในภมิภาคเอเซียนี้ด้วยเช่นกัน
แต่จีนได้เรียกนโยบายการหันมาสนใจเอเซียและการเพิ่มความร่วมมือทางของสหรัฐฯ ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะกับเวลา และจีนได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ เคารพในผลประโยชน์ของประเทศต่างๆ ในภมิภาคเอเซียนี้ด้วยเช่นกัน