สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ประกาศความตั้งใจว่าจะเลื่อนการซ้อมรบร่วมกันออกไป ระหว่างเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหมของเอเชีย ที่กรุงเทพฯ
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มาร์ค เอสเปอร์ กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นความปรารถนาดีของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่มีต่อเกาหลีเหนือ เพื่ออำนวยให้เกิดความตกลงทางการเมืองที่จะนำไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่น ทาโร โคโน ประกาศไม่เห็นด้วยต่อเรื่องนี้ โดยระบุว่าไม่ควรมีใครมองเกาหลีเหนือในแง่ดี และว่า รัฐบาลเปียงยางได้ทดสอบขีปนาวุธมากกว่า 20 ลูกในปีนี้ รวมถึงขีปนาวุธชนิดใหม่และแบบที่ยิงจากเรือดำน้ำได้
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซ้อมรบร่วมกันเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 หลังสงครามเกาหลี เพื่อแสดงศักยภาพรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ โดยปัจจุบันมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ราว 28,500 คน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์พบกับผู้นำคิม จอง อึน ที่สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2019 สหรัฐฯ ได้ระงับหรือเลื่อนการซ้อมรบกับเกาหลีใต้ไปแล้วหลายครั้งเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการเจรจากับเกาหลีเหนือเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์