วิเคราะห์: ทูตสหรัฐฯ ประจำจีนลาออก ส่งสัญญาณอย่างไรต่อความสัมพันธ์สองประเทศ

U.S. Ambassador Terry Edward Branstad

Your browser doesn’t support HTML5

US China Ambassador Resigns


เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน เทอร์รี แบรนสตัด ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โดยจะมีผลต้นเดือนตุลาคม หลังรับหน้าที่นี้เป็นเวลาสามปีครึ่ง

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯไมค์ พอมเพโอ กล่าวชื่นชม นายเเบรนสตัด ผ่านทวิตเตอร์ว่า “ทูตแบรนสตัด ช่วยสหรัฐฯ ปรับความสัมพันธ์กับจีน จนทำให้เกิดการทำงานที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ สมดุลซึ่งกันและกัน และเป็นธรรม”

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การลงจากตำแหน่งของ เทอร์รี แบรนสตัด ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการรัฐไอโอวา สังกัดพรรครีพับลิกัน ส่งสัญญาณถึงความหวังที่ริบหรี่ลงว่าสหรัฐฯ และจีนจะสมานความแตกต่างกันได้

ออร์วิลล์ สเกลล์ ผู้อำนวยการศูนย์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนแห่งองค์กร Asia Society ที่นิวยอร์ก บอกกับวีโอเอว่า นาย แบรนสตัด เข้าทำงานในหน้าที่นี้ด้วยความหวังว่า เขาจะสามารถสร้างความคืบหน้าในประเด็นที่ต้องบรรเทาปัญหาได้ แต่ปรากฏว่า เขาไม่สามารถทำได้ตามที่คิด

อดีตผู้ว่าการรัฐไอโอวารู้จักกับประธานาธิบดี สี จินผิงของจีนมายาวนาน เพราะรัฐของเขาและมณฑลหูเบ่ย ที่สี จินผิงเคยทำงานอยู่ ถูกจัดให้เป็น ‘เมืองพี่เมืองน้อง’ กันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ ภายใต้โครงการนี้ นายแบรนสตัดและนายสี จินผิงพบกันครั้งแรกเมื่อ 35 ปีก่อน

ดังนั้น เมื่อนายเเบรนสตัดได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อสามปีก่อนให้เป็นเอกอัตรราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน ผู้สังเกตการณ์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจึงมองว่า นายเเบรนสตัดน่าจะสามารถบรรเทารอยร้าว ที่เกิดขึ้นจากการโจมตีจีนโดยโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อสี่ปีก่อนได้

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์สหรัฐฯและจีนดำดิ่งลง ตั้งแต่เกิดการระบาดของโคโรนาไวรัส และความสัมพันธ์ส่วนบุคคลของทูตแบรนสตัดที่มีกับประธานาธิบดีสี ไม่สามารถช่วยแก้ไขอะไรได้มากนัก

ออร์วิลล์ สเกลล์ แห่ง Asia Society กล่าวว่า ทูตแบรนสตัดน่าจะรู้สึกว่าเขาไม่สามารถทำงานเชิงสร้างสรรค์ได้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์ของทางการจีน People’s Daily ปฏิเสธที่จะลงบทความแสดงทัศนะ ที่นายเเบรนสตัด เขียนส่งไป และรัฐมนตรีพอมเพโอ ทวีตว่า การกระทำของจีนแสดงให้เห็นถึงการขาดสมดุลซึ่งกันและกันในความสัมพันธ์ทวิภาคี รัฐมนตรีพอมเพโอกล่าวว่า ทูตจีนประจำสหรัฐฯ “มีอิสระที่จะลงบทความในสื่อก็ได้ในสหรัฐฯ”

Mike Pompeo

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า บทความของทูตแบรนสตัด “เต็มไปด้วยช่องโหว่และไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงอย่างมาก”

ออร์วิลล์ สเกลล์ ระบุว่า เขาคิดว่าทางการปักกิ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศย่ำแย่ลง

เขากล่าวว่า “กรอบความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน จัดว่ามีเสถียรภาพไม่มากก็น้อย ตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา แต่กรอบความสัมพันธ์ดังกล่าวถูกทำลายลง เพราะจีนมีท่าทีที่เเข็งกร้าวโดยไม่จำเป็นในประเด็นทะเลจีนใต้ ช่องเเคบไต้หวัน ฮ่องกงและมณฑลซินเจียง”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสสหรัฐฯกล่าวกับวีโอเอว่า ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของนายแบรนสตัด จีนดำเนินโยบาย “หาจุดร่วมก่อนและยังไม่พูดถึงความเเตกต่าง” เขากล่าวว่าการเพิกเฉยต่อความเเตกต่างสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์แห่งชาติสหรัฐฯขั้นพื้นฐาน เช่นในกรณีของการที่ฝ่ายจีนพยายามให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีอเมริกัน

เจ้าหน้าที่ผู้นี้บอกด้วยว่า จุดร่วมของทั้งสองประเทศคือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ส่วนความเเตกต่างมาจากประเด็นการเมืองและค่านิยม และว่า การลาออกของนายแบรนสตัด ไม่น่าเปลี่ยนพลวัตรในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ณ ขณะนี้

เดวิด มิลเลอร์ อดีตผู้อำนวยการ Research and Commodity Services ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการเกษตรของรัฐไอโอวา กล่าวว่า หลังจากนี้ นายแบรนสตัดอาจกลับมาช่วยงานการเมืองให้กับโดนัลด์​ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายนนี้