ผู้เชี่ยวชาญหวั่นผลกระทบจากนโยบาย 'วีซ่านักเรียน' ล่าสุดของสหรัฐฯ

FILE - Rowers paddle down the Charles River past the campus of Harvard University in Cambridge, Mass., March 7, 2017. A federal judge in Boston heard closing arguments Friday in a highly publicized lawsuit alleging that elite Harvard discriminates against

Your browser doesn’t support HTML5

US Branch INT Students Decline

ขณะนี้มหาวิทยาลัยสหรัฐฯ กำลังเตรียมรับมือจากผลกระทบที่ต่อเนื่องซึ่งบั่นทอนรายได้ของสถาบันการศึกษา หลังจากทางการอเมริกันกำหนดว่าชาวต่างชาติที่เรียนออนไลน์อย่างเดียว จะไม่สามารถรักษาสถานะวีซ่านักเรียนนักศึกษาในสหรัฐฯ ได้

หน่วยงานของรัฐบาลกลาง U.S. Immigration and Customs Enforcement หรือ ICE กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า นักศึกษาที่ไม่ได้ลงวิชาที่ใช้เวลาในห้องเรียนจริง จะต้องออกจากประเทศ หรือย้ายไปมหาวิทยาลัยที่มีการเข้าเรียนที่สถานที่ของสถาบัน

เอสเธอร์​ บริมเมอร์ ซีอีโอ ของ NAFSA ซึ่งเป็นองค์การการศึกษาระหว่างประเทศ กล่าวว่า แนวทางที่ ICE ประกาศออกมา ไม่เป็นผลดีต่อนักเรียนต่างชาติ และนำความเสี่ยงด้านสุขภาพมาสู่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง

เธอกล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐฯยังคงยากที่จะคาดเดา สถาบันการศึกษาควรมีอำนาจในการตัดสินใจ ในการดำเนินงานที่เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ของตน

นักศึกษาปริญญาเอกจากไอร์แลนด์เหนือ ที่ชื่อ แอรอน เคิร์คแพทริค ที่มหาวิทยาลัย Baylor University ในรัฐเท็กซัส กล่าวว่า ข่าวนี้จาก ICE “น่ากลัวอย่างยิ่ง” เขากล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาไม่สามารถกลับบ้านได้เพื่อต่อวีซ่านักศึกษาแบบ F1 เพราะสถานทูตต่างๆปิดในช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19

นักศึกษาผู้นี้กังวลด้วยว่า ถ้าต้องออกจากสหรัฐฯ เขาอาจจะเดินทางกลับมาใหม่ไม่ได้

Graduating seniors of Brophy College Preparatory wait their turn to walk down the aisle to the stage individually during Diploma Days due to the coronavirus in Phoenix, Arizona, May 28, 2020.

เมื่อเดือนพฤษภาคม รายงานของหน่วยงาน Institute of International Education สอบถามสถาบันการศึกษาเกือบ 600 แห่งเรื่องผลกระทบของโควิด-19

ร้อยละ 88 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า น่าจะมีจำนวนนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนน้อยลงในปีการศึกษาปัจจุบัน และร้อยละ 70 คิดว่านักเรียนต่างชาติบางคนอาจจะไม่กลับมาเรียนที่สถานศึกษาในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ นอกจากนี้ ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าจะเปิดคอร์สออนไลน์ ให้เเก่นักศึกษา

หน่วยงาน ICE ของทางการสหรัฐฯกล่าวว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ อาจสามารถยืดหยุ่นให้สถาบันต่างๆ และกับนักศึกษาต่างชาติได้ แต่จะสอดส่องอย่างระมัดระวังเพื่อให้มีการใช้กฎของรัฐบาลที่สมดุล

องค์กร American Council on Education คาดว่า จำนวนผู้ลงเรียนในสถาบันอเมริกันอาจลดลง 15 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า ขณะที่จำนวนนักเรียนต่างชาติจะลดลงร้อยละ 25

โซ ฮุน คิม นักศึกษาจากประเทศเกาหลีใต้ที่มหาวิทยาลัยอเมริกัน

George Mason University กล่าวว่าเขาเตรียมที่จะลงเรียนออนไลน์ทั้งหมด จากประเทศของเขา เพราะกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ

เขากล่าวด้วยว่า ถึงจะอยู่ในอเมริกาในช่วงเวลานี้ ข้อจำกัดในการใช้ชีวิตต่างๆ จะทำให้ประสบการณ์การอยู่ในประเทศนี้ทำได้ไม่เต็มที่อยู่ดี

FILE PHOTO: A student takes classes online with his companions using the Zoom app at home

สถาบันวิจัยด้านนโยบาย Brookings Institution ระบุว่า จำนวนนักศึกษาต่างชาติในสถาบันอุดมศึกษาอเมริกันคิดเป็นร้อยละ 5 ของนักศึกษาทั้งหมด โดยนำรายได้ที่เป็นค่าเทอมและค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมแล้ว 2,500 ล้านดอลลาร์

นอกจากวีซ่านักเรียนนักศึกษาประเภท F1 แล้ววีซ่าทำงานประเภท H1-B ซึ่งมีกฎใหม่ที่เคร่งครัดออกมา ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักศึกษาต่างชาติสนใจมาเรียนที่อเมริกาน้อยลง

ภายใต้กฎล่าสุดของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์​ ทางการจะงดออกวีซ่า H1-B รวมถึง J และวีซ่าที่เปิดโอกาสในทำงานได้เเบบอื่นๆ ไปจนถึงสิ้นปี สำหรับผู้ยื่นขอรายใหม่

เอสเธอร์​ บริมเมอร์ ซีอีโอ ของ NAFSA กล่าวทิ้งท้ายว่า น่าเสียดายที่รัฐบาลชุดนี้ออกนโยบาย ที่เพิ่มสิ่งกีดกั้นการมาเรียนต่อต่างประเทศในอเมริกาสำหรับชาวต่างชาติ และนั่นอาจทำให้สหรัฐฯเสี่ยงที่จะไม่ได้รับประโยชน์จากความรู้ความสามารถของคนจากทั่วโลกเหล่านี้