Your browser doesn’t support HTML5
ขณะนี้มหาวิทยาลัยสหรัฐฯ กำลังเตรียมรับมือจากผลกระทบที่ต่อเนื่องซึ่งบั่นทอนรายได้ของสถาบันการศึกษา หลังจากทางการอเมริกันกำหนดว่าชาวต่างชาติที่เรียนออนไลน์อย่างเดียว จะไม่สามารถรักษาสถานะวีซ่านักเรียนนักศึกษาในสหรัฐฯ ได้
หน่วยงานของรัฐบาลกลาง U.S. Immigration and Customs Enforcement หรือ ICE กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า นักศึกษาที่ไม่ได้ลงวิชาที่ใช้เวลาในห้องเรียนจริง จะต้องออกจากประเทศ หรือย้ายไปมหาวิทยาลัยที่มีการเข้าเรียนที่สถานที่ของสถาบัน
เอสเธอร์ บริมเมอร์ ซีอีโอ ของ NAFSA ซึ่งเป็นองค์การการศึกษาระหว่างประเทศ กล่าวว่า แนวทางที่ ICE ประกาศออกมา ไม่เป็นผลดีต่อนักเรียนต่างชาติ และนำความเสี่ยงด้านสุขภาพมาสู่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง
เธอกล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐฯยังคงยากที่จะคาดเดา สถาบันการศึกษาควรมีอำนาจในการตัดสินใจ ในการดำเนินงานที่เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ของตน
นักศึกษาปริญญาเอกจากไอร์แลนด์เหนือ ที่ชื่อ แอรอน เคิร์คแพทริค ที่มหาวิทยาลัย Baylor University ในรัฐเท็กซัส กล่าวว่า ข่าวนี้จาก ICE “น่ากลัวอย่างยิ่ง” เขากล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาไม่สามารถกลับบ้านได้เพื่อต่อวีซ่านักศึกษาแบบ F1 เพราะสถานทูตต่างๆปิดในช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19
นักศึกษาผู้นี้กังวลด้วยว่า ถ้าต้องออกจากสหรัฐฯ เขาอาจจะเดินทางกลับมาใหม่ไม่ได้
เมื่อเดือนพฤษภาคม รายงานของหน่วยงาน Institute of International Education สอบถามสถาบันการศึกษาเกือบ 600 แห่งเรื่องผลกระทบของโควิด-19
ร้อยละ 88 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า น่าจะมีจำนวนนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนน้อยลงในปีการศึกษาปัจจุบัน และร้อยละ 70 คิดว่านักเรียนต่างชาติบางคนอาจจะไม่กลับมาเรียนที่สถานศึกษาในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ นอกจากนี้ ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าจะเปิดคอร์สออนไลน์ ให้เเก่นักศึกษา
หน่วยงาน ICE ของทางการสหรัฐฯกล่าวว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ อาจสามารถยืดหยุ่นให้สถาบันต่างๆ และกับนักศึกษาต่างชาติได้ แต่จะสอดส่องอย่างระมัดระวังเพื่อให้มีการใช้กฎของรัฐบาลที่สมดุล
องค์กร American Council on Education คาดว่า จำนวนผู้ลงเรียนในสถาบันอเมริกันอาจลดลง 15 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า ขณะที่จำนวนนักเรียนต่างชาติจะลดลงร้อยละ 25
โซ ฮุน คิม นักศึกษาจากประเทศเกาหลีใต้ที่มหาวิทยาลัยอเมริกัน
George Mason University กล่าวว่าเขาเตรียมที่จะลงเรียนออนไลน์ทั้งหมด จากประเทศของเขา เพราะกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ
เขากล่าวด้วยว่า ถึงจะอยู่ในอเมริกาในช่วงเวลานี้ ข้อจำกัดในการใช้ชีวิตต่างๆ จะทำให้ประสบการณ์การอยู่ในประเทศนี้ทำได้ไม่เต็มที่อยู่ดี
สถาบันวิจัยด้านนโยบาย Brookings Institution ระบุว่า จำนวนนักศึกษาต่างชาติในสถาบันอุดมศึกษาอเมริกันคิดเป็นร้อยละ 5 ของนักศึกษาทั้งหมด โดยนำรายได้ที่เป็นค่าเทอมและค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมแล้ว 2,500 ล้านดอลลาร์
นอกจากวีซ่านักเรียนนักศึกษาประเภท F1 แล้ววีซ่าทำงานประเภท H1-B ซึ่งมีกฎใหม่ที่เคร่งครัดออกมา ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักศึกษาต่างชาติสนใจมาเรียนที่อเมริกาน้อยลง
ภายใต้กฎล่าสุดของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทางการจะงดออกวีซ่า H1-B รวมถึง J และวีซ่าที่เปิดโอกาสในทำงานได้เเบบอื่นๆ ไปจนถึงสิ้นปี สำหรับผู้ยื่นขอรายใหม่
เอสเธอร์ บริมเมอร์ ซีอีโอ ของ NAFSA กล่าวทิ้งท้ายว่า น่าเสียดายที่รัฐบาลชุดนี้ออกนโยบาย ที่เพิ่มสิ่งกีดกั้นการมาเรียนต่อต่างประเทศในอเมริกาสำหรับชาวต่างชาติ และนั่นอาจทำให้สหรัฐฯเสี่ยงที่จะไม่ได้รับประโยชน์จากความรู้ความสามารถของคนจากทั่วโลกเหล่านี้