ผู้เชี่ยวชาญกังวลผลกระทบจากภาวะโลกร้อน หลังสหรัฐฯ ถอนตัวจาก 'ข้อตกลงกรุงปารีส'

ผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงปารีส

บรรดาหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนที่ชี้ว่ากิจกรรมของมนุษย์เป็นต้นเหตุการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศโลก

คณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change) หรือ IPCC เป็นคณะกรรมการเอกเทศด้านวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ เตือนว่าหากยังไม่มีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดเเก๊สเรือนกระจกที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ จะมีความเสี่ยงสูงมากที่ภาวะโลกร้อนจะทำให้เกิดผลกระทบที่รุนเเรง กินวงกว้างและแก้ไขไม่ได้

โจนาธาน ลินน์ โฆษกแห่ง IPCC กล่าวว่า ทางคณะกรรมการเห็นว่าการควบคุมภาวะโลกร้อนและผลกระทบ จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถลดปริมาณแก๊สเรือนกระจกที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศลงในปริมาณมาก และต้องลดลงอย่างยั่งยืน

คุณลินน์ โฆษกแห่ง IPCC กล่าวว่า IPCC มองว่าปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาของทุกคน และต้องใช้ความร่วมมือกันในระดับทั่วโลก การลดภาวะโลกร้อนอย่างได้ผลไม่มีทางสำเร็จ หากแต่ละประเทศมุ่งเอาผลประโยชน์ของตนเท่านั้น

ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าการถอนตัวของสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยภาวะโลกร้อน จะมีผลกระทบอย่างไรต่อการลดปริมาณแก๊สเรือนกระจกที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศในอนาคต

ดีออน เทอร์บลองช์ หัวหน้าฝ่ายการวิจัยด้านชั้นบรรยากาศโลกและสิ่งแวดล้อม แห่งองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization) กล่าวว่า ภาวะโลกร้อนยังจะเกิดขึ้นต่อไปอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่คนเรายังปล่อยเเก๊สเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ โดยเฉพาะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

คุณเทอร์บลองช์ กล่าวว่า การลดการปล่อยเเก๊สเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศจะไม่ช่วยให้ปริมาณแก๊สเรือนกระจกที่สั่งสมในชั้นบรรยากาศลดลงเเต่อย่างใด เนื่องจากแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ยังคงอยู่ในชั้นบรรยากาศนานหลายร้อยปี

เขาชี้ว่าภาวะโลกร้อนจะยังดำเนินต่อไป และเชื่อว่าผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากการถอนตัวจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยภาวะโลกร้อน น่าจะทำให้เกิดสภาพอากาศโลกอุ่นขึ้นอีก 0.3 องศาเซลเซียส กว่าระดับอุณหภูมิในตอนก่อนยุคอุตสาหกรรม

(รายงานโดยห้องข่าววีโอเอ / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายเเก้ว)