องค์การสหประชาชาติเตือนว่าทวีปเอเชียเป็นทวีปที่เสี่ยงมากที่สุดต่อภัยภิบัติทางธรรมชาติ

  • Ron Corben
รายงานนี้จัดทำร่วมกันโดยสำนักงานลดความเสี่ยงต่อภัยภิบัติแห่งสหประชาชาติ (Office for Disaster Rick Reduction) กับ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asia Development Bank) และได้ชี้ว่าทวีปเอเชียแปซิฟิกเป็นจุดที่เสี่ยงต่อภัยภิบัติทางธรรมชาติมากที่สุด

ในปีพุทธศักราช 2555 เพียงปีเดียว ในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก เกิดแผ่นดินไหว พายุ และภัยธรรมชาติอื่นๆมากมาย กระทบต่อผู้คน 65 ล้านคนและสร้างความเสียหายราวหนึ่งหมื่นห้าพันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ตัวเลขนี้ลดลงกว่าปีก่อนหน้าที่มีมูลค่าความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่สามแสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เกิดจากเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นและเหตุน้ำท่วมในประเทศไทย

คุณเด็ปบี้ ซาพีร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยอุบัติการณ์ภัยภิบัติ (Center for Research on the Epidemiology of Disasters)
ประจำที่สำนักงานในกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม กล่าวว่าเอเชียเป็นทวีปที่มีความเสี่ยงสูงต่อภัยภิบัติและความเสี่ยงนี้สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เหตุภัยภิบัติในเอเชียมีความสำคัญมาก ประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ประสบภัยทั้งหมดทั่วโลกอยู่ในเอเชีย นอกจากนี้ยังมีจำนวนคนเสียชีวิตมาก เสียหายทางเศรษฐกิจสูง ตลอดจนเิกิดเหตุบ่อยมาก

คุณเจอรี่ วีลัสเก้ ผู้อำนวยการสำนักงานลดความเสี่ยงต่อภับภิบัติสหประชาชาติในเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่าแม้ว่าคนในฟิลิปปินส์และประเทศอื่นๆในภูมิภาค อาทิ บังคลาเทศ จะสามารถเตรียมตัวดีขึ้นในการรับมือกับภัยภิบัติ ความเสียหายทางเศรษฐกิจและจำนวนครั้งของภัยภิบัติกลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

คุณเจอรี่ วีลัสกี้ กล่าวว่า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากภัยภิบัติเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน นั่นเป็นเพราะว่ามีผู้คนและธุรกิจจำนวนมากในเขตที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมและพายุไซโคลน เขากล่าวว่าจำนวนผู้คนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมทั่วเอเชียได้เพิ่มมากขึ้นมากกว่าเท่าตัวในช่วงสี่สิบปีที่ผ่านมาหรือมากกว่าหกสิบล้านคน นอกจากยังมีคนราว 120 ล้านคนอาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อพายุไซโคลน

ขณะที่ประเทศในเอเชียมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากพายุก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆจำนวนมากขึ้นตั้งอยู่ในเขตเสี่ยงต่อน้ำท่วมและในเขตชายฝั่งทะเลที่เสี่ยงต่อระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น จนเกิดความกังวลกันว่าภัยภิบัติทางธรรมชาติจะยิ่งมีผลกระทบรุนแรงกว่าเดิมต่อการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย

คุณวิโนด ทอมมัส ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียกล่าวว่าทวีปเอเชียแปซิฟิก ถือได้ว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ การเติบโตทางเศรษฐกิจและการลดความยากจน แต่ทวีปนี้ก็ยังเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติเพิ่มขึ้นด้วย เขากล่าวว่าเมื่อมองไปข้างหน้า เกิดความกังวลว่าภัยภิบัติที่รุนแรงและบ่อยมากขึ้นอาจจะเป็นการพัฒนาทางเศรษฐกิจในทวีปสะดุดได้

รายงานชิ้นนี้ชี้ว่ารัฐบาลในประเทศต่างๆในทวีปเอเชียแปซิฟิกจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มขึ้นในการลดความเสี่ยงต่อภัยภิบัติและให้ถือเอาบังคลาเทศเป็นตัวอย่าง บังคลาเทศได้จัดสรรงบประมาณหนึ่งหมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐในช่วงสามสิบปีที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงระบบเตือนภัยล่วงหน้าและระบบการเตรียมตัวประชาชนและชุมชนซึ่งสามารถช่วยลดความเสียหายทางชีวิตจากพายุไซโคลนลงมาได้อย่างมาก