เจ้าหน้าที่ยูเครนรายงานว่า ขีปนาวุธของรัสเซียโจมตีใส่เมืองวินนิตเซีย ในภาคกลางของยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน บาดเจ็บอีกราว 25 คน
ตำรวจยูเครนเผยว่า ขีปนาวุธ 3 ลูกโจมตีใส่อาคารสำนักงานแห่งหนึ่งใจกลางเมืองวินนิตเซีย และทำลายอาคารบ้านเรือนโดยรอบ
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุทางแอปเทเลแกรมว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นมีเด็กด้วยหนึ่งคน และว่า "ทุกวันนี้ทหารรัสเซียทำลายประชาชนบริสุทธิ์ สังหารเด็กชาวยูเครน ยิงขีปนาวุธโจมตีใส่อาคารของพลเรือนซึ่งไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร การกระทำเหล่านี้จะเรียกว่าอะไรถ้าไม่ใช่การก่อการร้าย?"
Destroyed vehicles are seen at the site of a Russian military strike in Vinnytsia, Ukraine July 14, 2022. (Press service of the State Emergency Service of Ukraine/Handout via Reuters)
การเจรจาเพื่อส่งออกธัญพืชยูเครน
เมื่อวันพุธ เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเทอเรซ กล่าวว่า "มีความตกลงร่วมกัน" เรื่องการจัดทำข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับยูเครน ภายใต้ความเห็นชอบของตุรกีและสหประชาชาติ ให้มีการส่งออกธัญพืชของยูเครนหลายล้านตันซึ่งยังติดค้างในโกดังที่ยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ความคืบหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุม 4 ฝ่ายที่นครอิสตันบุลในวันพุธ ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือรัสเซีย-ยูเครน และสหประชาชาติ, ข้อตกลงเรื่องการควบคุมตรวจสอบธัญพืชที่จุดส่งออกตามท่าเรือต่าง ๆ และการรับประกันด้านปลอดภัยของเรือขนส่งสินค้าที่จะเดินทางออกจากเมืองโอเดซาของยูเครนด้วย
FILE - Trucks loaded with grain wait in a queue near Izmail, in the Odesa region, June 14, 2022.
นายกูเทอเรซ กล่าวว่า "นี่เป็นเพียงการหารือขั้นแรก แต่ผลที่ออกมานั้นมีความคืบหน้าอย่างยิ่ง โดยหลังจากนี้ผู้แทนการเจรจาจะกลับไปยังประเทศของตน และหวังว่าขั้นต่อไปจะเป็นการจัดทำข้อตกลงอย่างเป็นทางการ" ซึ่งทางเลขาฯ ยูเอ็น หวังว่าข้อตกลงดังกล่าวจะสามารถเกิดขึ้นได้หลังการหารือในสัปดาห์หน้า
ปัจจุบัน คาดว่ามีธัญพืชที่ติดค้างตามโกดังที่ท่าเรือเมืองโอเดซาในยูเครนมากกว่า 20 ล้านตัน และเรือขนส่งสินค้าหลายสิบลำไม่สามารถเดินทางผ่านทะเลดำได้เพราะถูกทหารรัสเซียกีดขวางไว้ ซึ่งทางตุรกีระบุว่า มีเรือสินค้าอีก 20 ลำที่เตรียมพร้อมสำหรับการขนส่งธัญพืชเหล่านั้นทันทีหากการเจรจาครั้งนี้ลุล่วง
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์