Your browser doesn’t support HTML5
เมื่อวันอาทิตย์ ชาว Ukraine ในภาคตะวันออกของประเทศที่เมือง Donestsk และ Luhansk ไปลงคะแนนเสียงแสดงประชามติว่าจะแยกตัวออกมาเป็นสาธารณรัฐอิสระหรือไม่
เหตุการณ์ที่เมือง Odessa และ Mariupol ในช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีการปะทะกันระหว่างผู้ที่ต้องการแยกออกไปรวมตัวกับรัสเซียกับกำลังทหารของรัฐบาล Ukraine ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 คน และการต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายนี้เมื่อวันศุกร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกราวๆ 20 คน ส่งผลทางจิตใจให้กับผู้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเป็นอย่างมาก
บางคนให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวของ VOA ว่า Ukraine จะไม่สามารถรวมตัวให้เป็นปึกแผ่นได้ จึงลงคะแนนเสียงให้แยกตัวออกมา บางคนเสียใจกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และกล่าวหาว่ารัฐบาล Ukraine เป็นโจรที่โจมตีทำร้ายผู้คน
ในอีกด้านหนึ่ง หลังการลงคะแนนเสียงเริ่มต้นได้ไม่นาน มีคำกล่าวหาว่า คนๆเดียวไปลงคะแนนเสียงซ้ำกันหลายครั้ง แต่นาย Roman Lyagin ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของฝ่ายที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะจะลงคะแนนเสียงได้ในแต่ละครั้ง ต้องเข้าคิวรอนานถึงครึ่งชั่วโมง และไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการป้องกันการลงคะแนนเสียงซ้ำ
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การลงคะแนนเสียงแสดงประชามติครั้งนี้ ไม่ได้มาตรฐานระหว่างประเทศ และง่ายต่อการโกง นอกจากนี้ยังไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศเข้าไปติดตามดูการลงคะแนนเสียงด้วย
นักวิเคราะห์วิตกกังวลว่าการลงคะแนนเสียงจะไม่เป็นไปอย่างซื่อตรง เพราะมีการข่มขู่และลักพาตัวโดยฝ่ายที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนควบคู่ไปด้วย
รัฐบาล Ukraine กล่าวประนามการลงคะแนนเสียงแสดงประชามตินี้ว่า ผิดกฎหมายและเป็นการหลอกลวง ในขณะที่ชาว Ukraine ส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกดินแดน กล่าวไว้ว่าจะไม่ไปลงคะแนนเสียง
ขณะเดียวกัน ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง บอกกับ VOA ว่า บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงที่ใช้มาจากฐานข้อมูลปี ค.ศ. 2012 ซึ่งไม่สมบูรณ์ และใครก็ตามที่ไปปรากฎตัวที่คูหาลงคะแนนเสียง ก็จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียงได้ แม้จะไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อก็ตาม
ผู้ไปใช้สิทธิ์ส่วนใหญ่แสดงความหวังว่า ผลจะออกมาในทางที่จะให้ภาคตะวันออกของ Ukraine แยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระ และรัสเซียจะรวมส่วนนี้ของ Ukraine เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของตนได้อย่างรวดเร็ว