กว่า 70 ประเทศและสถาบันต่าง ๆ ทั่วโลก ให้คำมั่นสนับสนุนเงินช่วยเหลือกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ให้กับยูเครนในวันอังคาร เพื่อฟื้นฟูระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย
ภายใต้ความช่วยเหลือดังกล่าว ราว 400 ล้านดอลลาร์ จะเน้นช่วยเหลือภาคพลังงานยูเครน ซึ่งรัสเซียมุ่งเป้าโจมตีทางอากาศหลายระลอก
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่ารัสเซียพยายามที่จะ “ทำให้ชาวยูเครนตกอยู่ในความสิ้นหวัง” และว่าเป้าหมายของการประชุมครั้งนี้คือการช่วยประชาชนยูเครน “ให้ผ่านพ้นฤดูหนาวนี้ไปให้ได้”
รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส แคทเธอรีน โคโลนนา กล่าวในวันอังคารว่าเงินช่วยเหลือเหล่านี้มาจาก “ความร่วมมือใหม่ ... สิ่งนี้คือความช่วยเหลือ หรือเงินบริจาค ไม่ใช่เงินกู้ยืม” และว่าความช่วยเหลือนี้จะ “เกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้และในช่วงหลายเดือนในฤดูหนาว ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน”
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวในการประชุมด้านความช่วยเหลือยูเครนที่ฝรั่งเศสด้วยว่า “มันเป็นเงินจำนวนมาก แต่มูลค่าน้อยกว่าความเสียหายจากเหตุไฟฟ้าดับเสียอีก”และว่ายูเครนต้องการเงินช่วยเหลืออย่างน้อย 840 ล้านดอลลาร์
ขณะที่นายกรัฐมนตรียูเครน เดนิส ชมีฮาล กล่าวด้วยว่าความช่วยเหลือใหม่นี้ “เป็นสัญญาณอันทรงพลัง มันได้แสดงให้เห็นว่าประเทศที่มีอารยะทั่วทั้งโลกต่างสนับสนุนยูเครน”
นับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัสเซียโจมตีโครงข่ายพลังงานยูเครน ซึ่งปธน.เซเลนสกีระบุว่าการโจมตีของรัสเซียเป็นอาชญากรรมสงครามที่มุ่งเป้าไปยังชีวิตพลเรือน แต่รัสเซียยืนยันว่าเป็นการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของกองทัพยูเครน
อ้างอิงจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่ไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่า รัสเซียดึงเอาคลังกระสุนเก่าแก่ที่ผลิตเมื่อกว่า 40 ปีก่อนมาใช้ และคาดว่าจะใช้กระสุนที่สั่งสมไว้ทั้งหมดภายในต้นปี 2023
- มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์