Your browser doesn’t support HTML5
เจ้าหน้าที่ตุรกีกล่าวหาขบวนการรัฐอิสลามว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตายในนครอิสตันบุลเมื่อวันเสาร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน รวมถึงพลเมืองอเมริกัน อิหร่าน และอิสราเอล โดยทางการตุรกีเปิดเผยว่าสามารถระบุตัวมือระเบิดได้แล้ว และกำลังติดตามค้นหาผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆ
รัฐมนตรีมหาดไทยของตุรกี Efkan Ala เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนสามารถระบุตัวมือระเบิดฆ่าตัวตายในนครอิสตันบุลได้แล้ว โดยอาศัยตัวอย่างดีเอ็นเอที่พบในที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นเชื่อว่ามือระเบิดคือนาย Mehmet Ozturk อายุ 24 ปี เป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายซึ่งคาดว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับขบวนการรัฐอิสลาม IS
การระบุตัวมือระเบิดผู้นี้เกิดขึ้นเมื่อบิดาของนาย Ozturk เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจด้วยตัวเอง หลังจากเห็นลูกชายของตนปรากฏอยู่ในภาพจากวิดีโอวงจรปิดที่ถ่ายขณะเกิดเหตุ และตำรวจได้นำออกเผยแพร่
รายงานจากสำนักข่าวท้องถิ่นในตุรกีบอกว่า นาย Ozturk เป็นผู้ต้องสงสัยว่าเข้าร่วมกับกลุ่ม IS หลังจากเขาหายตัวไปก่อนหน้านี้
ทางอัยการตุรกีเปิดเผยว่าได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 5 คน ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการระเบิดครั้งนี้ และกำลังตรวจสอบว่ามีผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆหรือไม่ ขณะเดียวกันก็กำลังมีการสืบสวนว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายนั้นมีเป้าหมายโจมตีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลอย่างเฉพาะเจาะจงหรือไม่
นักท่องเที่ยว 3 คนที่เดินทางมากับกลุ่มทัวร์อิสราเอลคือส่วนหนึ่งของผู้เสียชีวิต และมีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลและจากชาติอื่นๆที่ได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน โดยเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวเกิดที่ถนน Istiklal ซึ่งเป็นย่านท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของนครอิสตันบุล
เมื่อเดือนมกราคม รัฐบาลตุรกีกล่าวหาว่ากลุ่มรัฐอิสลามอยู่เบื้องหลังการระเบิดฆ่าตัวตายบริเวณศูนย์กลางของย่านท่องเที่ยวในนครอิสตันบุล ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันเสียชีวิต 12 คน
การท่องเที่ยวถือเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจตุรกี และนักวิเคราะห์เตือนว่าการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลตุรกีเร่งปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม ที่เชื่อว่ามีเครือข่ายปฏิบัติการขนาดใหญ่และซับซ้อนอยู่ในตุรกี
(ผู้สื่อข่าว Dorian Jones รายงานจากนครอิสตันบุล / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)